Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 3 เมษายน 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold – ราคาทองคาปรับตัวเหนือระดับ 1,670 เหรียญได้ในช่วงของการซื้อขายในตลาด COMEX เมื่อวานนี้ โดยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยภาพรวมเป็นเรื่องของ Technical มากกว่า โดยพบว่ามีแรงซื้อหนาแน่นบริเวณ 1,660 เหรียญ โดยไปทาจุดสูงสุดที่ระดับ 1,683 เหรียญ และกลับมาปิดที่ตลาด COMEX ที่ระดับ 1,679 เหรียญ โดยภาพรวมลักษณะของทองคาเป็น sideway up โดยที่จะมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,695 เหรียญ ซึ่ง MTS Gold คาดว่าไม่น่าสามารถผ่านไปได้ง่ายๆ แนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1,670 เหรียญในส่วนของเงินยูโรเองก็ยังทรงตัวอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยยังยืนอยู่เหนือระดับ 1.33 ดอลลาร์/ยูโรได้ ทาให้ภาพรวมของเงินยูโรยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น Silver - ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปรับตัวขึ้นนาราคาทองคาไปก่อนในวันนี้ และทองคาจะปรับขึ้นตาม แนวต้านถัดไปที่ระดับ 33.50 เหรียญ และแนวรับ 32 เหรียญ

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น เป็นการขึ้นอย่างช้า ๆ

Weekly

ทยอยซื้อต่อเนื่อง ถือครองพอร์ท 20 – 30%

Monthly

ยังเป็นการรอก่อน ช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาในชั่วโมงซื้อขายในประเทศเปิดที่ระดับ 1,670 เหรียญ/ออนซ์ ส่วน Gold Futures J12 เปิดที่ 24,540 บาท Gold futures M12 เปิดที่ 24,780 บาท สมาคมค้าทองแท่ง เปิดที่ 24,250 บาท ราคาทองคาในชั่วโมงซื้อขายในประเทศเคลื่อนตัวอยู่ในช่วง ระดับระดับราคา 1,662-1,670 เหรียญ โดยราคาทองคา เคลื่อนตัวสู่ระดับสูงสุดในช่วงตลาดภาคเช้า ณ ระดับราคา 1,670 เหรียญ ก่อนจะเคลื่อนตัวสู่ระดับสูงสุดในช่วงบ่าย ณ ระดับราคา 1,662 และปิดตลาดภาคบ่าย ณ ระดับราคา 1,666 เหรียญ

Night Recap

ราคาทองคาในชั่วโมงซื้อขายในประเทศเปิดที่ระดับ 1,665 เหรียญ/ออนซ์ ส่วน Gold Futures J12 เปิดที่ 24,530 บาท Gold futures M12 เปิดที่ 24,730 บาท ราคาทองคาในชั่วโมงซื้อขายในประเทศเคลื่อนตัวอยู่ในช่วง ระดับระดับราคา 1,665 -1,683 เหรียญ โดยราคาทองคาเคลื่อน ตัวสู่ระดับต่าสุด ณ ระดับราคา 1,665 เหรียญ ก่อนจะเคลื่อนตัวสู่ ระดับสูงสุด ณ ระดับราคา 1,683 และปิดตลาด ณ ระดับราคา 1,680 เหรียญ

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยเมื่อวานนี้มีการหยุดชะงักชั่วคราวหลังจากที่ราคาปรับตัวตามราคาน้ามันและหุ้นที่สูงขึ้น เนื่องจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐอเมริกาและจีนออกมาดีขึ้นกลบความผิดหวังจากทางฝั่งยูโรโซน โดยราคาทองคาแท่งปรับตัวสูงขึ้น 1.24 เหรียญ ที่ระดับ 1,678.49 เหรียญ/ออนซ์ ณ เวลา 7.30 น. และราคาทองคาสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงมากนักอยู่ที่ระดับ 1,680.30 เหรียญตัวเลขภาคการผลิตที่ดีขึ้นของสหรัฐเช่นเดียวกันกับจีนส่งผลให้วอลสตรีทพุ่งขึ้นทาจุดสูงสุดในรอบ 4 ปีเมื่อวานนี้ และได้ช่วยทาให้ราคาทองคาแท่งเพิ่มขึ้นเกือบ 0.5%

-ข้อมูลจาก Istanbul Gold Exchange (IGE) ระบุว่า ตุรกีมีการนาเข้าทองคาเพิ่มขึ้นเกือบ 3 ตันในเดือนมีนาคม ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าของเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา และยังเป็นการรักษาแนวโน้มให้ดาเนินต่อไปตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ โดยยอดนาเข้าทองคาแตะระดับ 2.909 ตันในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0.9 ตัน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคมที่มียอดการนาเข้าทองคา 2.9 ตัน และ 2 ตันในเดือนกุมภาพันธ์

-ร้านค้าทองคาในอินเดียยังคงปิดประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 โดยความต้องการทองคาของประเทศมาแตะที่ระดับ 933.4 ตันในปี 2011 อ้างอิงข้อมูลจาก Bombay Bullion Association (BBA) มีการคาดการณ์ว่า การนาเข้าทองคาในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะอยู่ที่ 150 ตัน ซึ่งลดลงจาก 250 ตันในไตรมาสแรกของปี 2011 สาหรับยอดนาเข้าทองคาตลอดทั้งปี มีการคาดการณ์ว่าจะมาอยู่ที่ราว 700 – 800 ตัน ซึ่งลดลงจากเดิมถึง 25%

-สาหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ออกมาอยู่ที่ระดับ 53.4 จุดในเดือนมีนาคม จากระดับ 52.4 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 53.3 ซึ่งตัวเลขเหนือระดับ 50 จุดนั้นบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่ขยายตัว แต่อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างสหรัฐฯ ยังชะลอตัว แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตารอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมาที่เหลือในสัปดาห์นี้ เช่น factory orders ในวันนี้ ISM Non-Manufacturing ในวันพุธ และ Non-farm payrolls ในวันศุกร์

-ราคาน้ามันที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 2% ก็เป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคาเช่นกันเมื่อวานนี้ผู้กาหนดนโยบายของเฟดได้ส่งสัญญาณเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า อาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติม ซึ่ง ณ ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กาลังค่อยๆ ฟื้นตัวทีละน้อย มีการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยไว้คงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมในวัน

CGF

Price Movement

ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,679.70 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.80 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,664.40 - 1,685.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาเพิ่มขึ้นพร้อมกับราคาน้ามันและตลาดหุ้น หลังจากการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของจีนและสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ราคาทองคาได้แรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคเมื่อสามารถแนวต้านบริเวณ 1,670 ขึ้นมาได้ ทาให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปทา high บริเวณ 1,685 จากนั้นมีแรงขายทากาไรทาให้ราคาปิดที่บริเวณ 1,679.70 USDต่อออนซ์ สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,679 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟในราย 240 นาที แนวโน้มมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,688 และถัดไปบริเวณ 1,700 ส่วนแนวรับวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,670/1,660/1,645 แนะนา นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ ถือต่อโดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวนแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,688/1,700 สาหรับนักลงทุนที่ไม่มีสถานะ รอเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ 1,670 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,700 /1,717 และแนวรับบริเวณ 1,655/1,645 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,645 – 1,717 USDต่อออนซ์

Recommendations

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,645 – 1,700 Trading ในกรอบ 1,645 – 1,700

แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,600 – 1,800 แนะนา รอเปิด Long บริเวณแนวรับ 1,640 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,760

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,600 - 1920 แนะนา รอเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 1,600

Key Points in Precious Market

-ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ การกลับเข้ามาซื้อทองคาของผู้จัดการกองทุน รวมถึงเฮดจ์ฟันด์ และนักเก็งกาไรรายใหญ่ ( + ) ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ( + ) ราคาน้ามันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากตัวเลขดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และความล่าช้าในการขนถ่ายน้ามันในทะเลเหนือ ( + ) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับบวกขึ้น ( + ) ตัวเลขการว่างงานของยูโรโซนพุ่งขึ้นมาที่ระดับ 10.8% สูงสุดในรอบ 14 ปีและอาจทาให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในเร็วๆนี้ ( - ) เฟดอาจไม่ส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยจะรอดูการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก่อน ( - )

-ประเด็นที่ต้องติดตาม เฟด เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกาหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ กรีซอาจจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ค.

-การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คเดือนมี.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.พ. เฟด เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกาหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 13 มี.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนมี.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค. ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.

-SPDR ถือทองคาจานวนเท่าเดิม 1,286.62 ตัน