Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 5 เมษายน 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold – ราคาทองคายังได้รับผลต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากความผิดหวังที่คาดว่าจะไม่มี QE3 โดยราคาเมื่อวานนี้ก็ยังร่วงหลุดแนวรับที่ระดับ 1,640 เหรียญลงมา และลงไปทาจุดต่าสุดที่ระดับประมาณ 1,613 เหรียญ และดีดตัวกลับมาปิดที่ตลาด COMEX ที่ระดับ 1,614 เหรียญ ในเชิงเทคนิคราคาทองคายืนอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ซึงถือว่าเป็นแนวโน้มขาลง อย่างไรก็ดีจากการที่ราคาทองคาตกลงมาอย่างรวดเร็วทาให้ยังมีแรงซื้อกลับทางจิตวิทยาค่อนข้างสูงบริเวณ 1,610 เหรียญ ทั้งนี้คงต้องขึ้นกับค่าเงินยูโรดอลลาร์ด้วยว่ายังจะตกหลุด 1.31 ดอลลาร์/ยูโรลงไปหรือไม่อย่างไร ถ้าเงินยูโรดอลลาร์ยังมีอาการตกลงไปในขณะที่ US Dollar Index ยังปรับตัวสูงขึ้น ก็คงเป็นแรงกดดันที่จะทาให้ราคาทองคาอาจลงหลุดระดับ 1,600 เหรียญได้ อันจะเห็นได้ว่าโดยส่วนใหญ่ขณะนี้ราคาทองคาค่อนข้างเกาะติดกับค่าเงินยูโรดอลลาร์ ในขณะที่ Economic Data ADP Non-Farm Employment Change ออกมาดีกว่าที่คาดประมาณ 4,000 ตาแหน่ง และคืนนี้จะมีเรื่องของ Unemployment Claims คือคาดว่าจะดีขึ้น และ SPDR ยังคงไม่ได้ทาอะไรถือครองทองคาเท่าเดิม 1,286.62 ตัน

สรุปMTS Gold วิเคราะห์ว่าการตกครั้งนี้น่าจะใกล้สิ้นสุด ดูลักษณะคล้ายกับ Wave ที่ 5 ในขาลงครั้งสุดท้ายของ Elliot Wave มีความเป็นไปได้ที่ Wave นี้จะจบที่ระดับ 1,610 เหรียญ หรือถ้าหลุดลงไปเราเชื่อว่าระดับ 1,580 เหรียญน่าจะเอาอยู่ อย่างไรก็ดีขอให้วาง stop loss เอาไว้ที่บริเวณ 1,604 เหรียญ หมายความว่า เราจะเริ่มเข้าช้อนซื้อในบริเวณนี้ ถ้าราคาหลุดให้หนี เพื่อไปซื้อบริเวณ 1,585 เหรียญ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว หมายความว่าการตกน่าจะตกได้อีกไม่มาก ไม่แนะนาให้ทาการ short เพื่อหนีบริเวณนี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ถือพอร์ทมากกว่า 1,660 เหรียญขึ้นไป อันนี้ก็มีความจาเป็นที่จะต้องลดพอร์ทเพื่อบริหารความเสี่ยง หรือไม่ก็จะต้องมีทุนสารองในภาวะความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นต้องเข้าใจว่าในภาวะความผันผวนอย่างนี้ การเข้าช้อนซื้อเหมาะสาหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีเงินเย็นๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับนักลงทุนระยะสั้นที่ติดอยู่สูงและจะเข้าช้อนซื้อเพิ่ม จึงต้องทาความเข้าใจในการบริหารพอร์ทการลงทุนให้ดี อย่าสับสนกับเงินร้อนและเงินเย็น แนะนาให้เอาเงินเย็นเข้าซื้อ เงินร้อนอยู่เฉยๆ เงินร้อนคือ เงินที่ใช้ margin ในการซื้อขาย

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,615 – 1,630 เหรียญ ให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายทากาไรในระยะสั้นเป็นรายวัน

Weekly

ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้น โดยให้เข้าช้อนซื้อในบริเวณนี้โดยตลอด เพิ่มพอร์ทเป็น 40%

Monthly

แนะนาให้เข้าช้อนซื้อเช่นเดียวกัน ปรับพอร์ทเป็น 30% เนื่องจากราคาลงมาบริเวณแนวรับสาคัญของนักลงทุนระยะยาว จึงแนะนาให้เข้าซื้อตลอด ในระดับที่ต่ากว่า 1630 เหรียญ นักลงทุนระยะยาวควรเข้าช้อนซื้อทีละ 10% เป้าหมายของพอร์ทดึงขึ้นไปให้ได้ที่ 80%

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,642 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures J12 เปิดที่ 24,640 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,100 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1,621 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,612 – 1,626 เหรียญ ก่อน กลับมาปิดตลาดที่ 1,614 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองคาขยับตัวขึ้นในเช้านี้ หลังจากที่ความหวังในการที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากเฟดถูกบดบังลง และการที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าก็ส่งผลให้ทองคาลงไปทาจุดต่าสุดในรอบเกือบ 3 เดือนเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคาปรับตัวลดลงติดต่อกันสองวันหลังจากการรายงานประชุม FOMC ประจาเดือนมีนาคม ที่กลุ่มผู้กาหนดนโยบายแทบจะไม่ส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัวนอกจากนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคาปรับตัวลดลงก็คือ การที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่าสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากผลการประมูลพันธบัตรของสเปนออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ โดยมีความต้องการพันธบัตรลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้น อีกทั้งสกุลเงินยูโรยังถูกกดดัน หลังจากอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ 1% ตามคาดเมื่อวานนี้ โดยมีความระมัดระวังเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจในลักษณะ downside risk และอีซีบีเพิกเฉยต่อการที่ผู้นาเยอรมนีมีการกระตุ้นธนาคารให้เริ่มการวางแผนที่จะล่าถอยจากการต่อสู่วิกฤตอย่างเร่งด่วน

ในวันนี้ Shanghai Gold Exchange จะกลับมาเปิดตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไป 3 วัน ในขณะที่ตลาดปิดทาการไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคาแท่งยืดเวลาสัญญาปิดตลาดที่ระดับ 339.13 หยวน/กรัม หรือ 1,674 ดอลลาร์/ออนซ์

กองทุนทองคา SPDR ยังคงทองคาปริมาณเดิมที่ระดับ 1,286.621 ตันเมื่อวานนี้ แต่การถือครองของ Gold ETF เพิ่มขึ้น 44,761 ออนซ์ สู่ระดับ 70.4 ล้านออนซ์ หรือ 2,190 ตัน

-ราคาทองคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องเมื่อวานนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาด ส่งผลให้เฟดจะไม่ออกมาตรการ QE3 ในระยะอันใกล้ โดยตลาดทั่วโลกเมื่อวานนี้ปรับตัวติดลบกันถ้วนหน้า หลังจากการประชุม FOMC เปิดเผยว่าจะไม่มีการออกมาตรการ QE3 เข้าสู่ระบบการเงิน หากเศรษฐกิจไม่สูญเสียกาลัง หรือหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ากว่า 2%

London-based broker Triland Metals กล่าวว่า ทองคาปรับตัวลดลงหลุดแนวรับที่ระดับ 1,627 เหรียญลงมา และเป็นการเร่งให้เกิดการทา stop loss selling มากขึ้น ซึ่งการดีดกลับมีเพียงเล็กน้อยเนื่องจากมีระดับทางจิตวิทยาที่ 1,600 เหรียญเป็นตัวกดดันการขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ แนวรับสาคัญถัดไปหากหลุด 1,600 เหรียญลงมา อาจเห็นที่ระดับ 1,523 เหรียญ

MKS Finance SA กล่าวว่า ทองคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือ Trend-line ได้ เนื่องจากการที่เฟดไม่ส่งผลการอัดฉีดสภาพคล่อง ทาให้ทองคาได้รับความเสี่ยงสู่การปรับฐานที่ลึกขึ้นเมื่อวานนี้ก่อนเทศกาล Easter อย่างไรก็ตาม ราคาทองคาที่ปรับตัวลงอาจมีสิ่งจูงใจจากการเข้าซื้อทองคาแท่งในอินเดียสิ้นเดือนนี้ ในขณะที่ข้อมูลจาก ETF แสดงให้เห็นถึงนักลงทุนยังคงไม่ได้ทาอะไรกับการถือครองสถานะตนเอง นอกจากนี้การประมูลพันธบัตรของสเปนครั้งใหม่อาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

CGF

Price Movement

ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,614.10 USDต่อออนซ์ ลดลง 57.90 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,612 - 1,647 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องจากวันก่อน ตามราคาน้ามัน และตลาดหุ้นต่างประเทศทั่วโลก ที่ต่างปรับตัวลดลง ทั้งนี้ยังได้รับปัจจัยลบต่อเนื่องจากจากรายงานการประชุมของเฟดที่ประชุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่า มีแนวโน้มน้อยลงที่จะดาเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ในขณะที่มีความกังวลว่าอุปสงค์ในอินเดียจะลดลงเนื่องจาก การขึ้นภาษีนาเข้าทองคาทาให้มีการประท้วงของผู้ประกอบการเครื่องประดับ นอกจากนั้น ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนที่พุ่งขึ้นในการประมูลพันธบัตร ทาให้นักลงทุนกังวลว่าแรงหนุนที่ตลาดพันธบัตรยูโรโซนเคยได้รับหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่าอาจใกล้จะสิ้นสุดลง โดยราคาทองคาปรับตัวลดง แตะต่าสุดที่ 1,612 ซึ่งเป็นบริเวณแนวรับสาคัญที่กรอบล่างของ Up Trend Line ระยะยาว ซึ่งเมื่อถึงบริเวณดังกล่าว ก็สามารถ Rebound กลับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ภาพทางเทคนิค ยังส่งสัญญาณลบ โดยหากราคาทองคา ไม่สามารถต้านผ่านแนวต้านสาคัญที่บริเวณ 1,630 ราคาทองคายังมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อ แนะนา หากราคามาสามารถยืนเหนือ 1,630 เปิด short ที่บริเวณแนวต้าน โดยมีเป้าหมายทากาไรที่ 1,600/1,595 จุด Stop loss บริเวณ 1,640

Recommendations

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,595 – 1,660 Trading ในกรอบ 1,595 – 1,660

แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,553 – 1,800 แนะนา รอราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้านเพื่อเปิด short โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,595/1,553

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,553 - 1920 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ

Key Points in Precious Market

-ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ รายงานการประชุมของเฟดที่จะไม่มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ( - ) ราคาน้ามันดิบปรับลดลง ( - ) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง ( - ) สเปนขายพันธบัตรระยะกลางต่ากว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น และหนี้สาธารณะอาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 78% ของ GDP ในปีนี้จากระดับ 68% ในปีที่แล้ว ( - ) กรีซคาดเศรษฐกิจหดตัว 5% ในปีนี้ และการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 20% ( - ) ภาคบริการของยูโรโซนยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา ( - )

-ประเด็นที่ต้องติดตาม ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ กรีซอาจจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ค.

-การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.

-SPDR ถือทองคาจานวนเท่าเดิม 1,286.62 ตัน