Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 17 เมษายน 2555

HGF

- คาดทองสัปดาห์นี้ยังปรับฐานต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน

- GDP จีนไตรมาสแรกขยายตัวต่ำกว่าคาด

- ระวังแรงขายหากปรับฐานลงต่ำกว่าแนวรับ 1,640 ดอลลาร์

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงค่ำของวันพฤหัส ซึ่งที่บริเวณดังกล่าวเป็นแนวต้านสำคัญในทางเทคนิคก่อนที่จะเริ่มปรับฐานลงในการซื้อขายวันศุกร์ และกลับมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,650 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ไม่แตกต่างกับวันพฤหัสก่อนที่ตลาดอนุพันธ์ของไทยและตลาดทองในประเทศจะปิดทำการเช่นเดียวกันกับราคาโลหะเงินซึ่งแม้จะดีดตัวผ่านกรอบแนวต้านบริเวณ 32.0 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ในการซื้อขายช่วงค่ำ แต่ในการซื้อขายวันศุกร์ก็กลับมีแรงขายออกมามาก จนทำให้ราคาปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่ตลาดอนุพันธ์ของไทยจะหยุดทำการช่วงสงกรานต์ โดยภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำหลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้นั้น ทำให้แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาในสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะปรับฐานลงต่อ โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,640 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวานนี้ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณดังกล่าวได้ คาดว่าราคาทองคำจะปรับฐานลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในระหว่างวันต่อไป โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,630 และ 1,610-1,615 ดอลลาร์ ตามลำดับ ส่วนในกรณีที่ราคาดีดตัวขึ้นในระหว่างวัน คาดว่าจะยังมีแรงขายออกมามากจากแนวต้านที่ลดระดับลงมาอยู่ที่บริเวณ 1,660-1,665 ดอลลาร์หากราคาดีดตัวขึ้นใกล้แนวต้านดังกล่าวจึงต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมา ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินซึ่งปรับฐานลงมาจากแนวต้านบริเวณ 32.5 0ดอลลาร์นั้น ก็ยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงต่อเช่นเดียวกับราคาทอง แนวรับสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 31.0-31.20 ดอลลาร์ และคาดว่าจะมีแรงขายออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ ประเด็นหลักที่กดดันให้ราคาทองและโลหะเงินปรับฐานลงค่อนข้างแรงหลังจากดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านในการซื้อขายวันศุกร์นั้น เป็นผลจากรายงานอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกของปีนี้ซึ่งขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมิน และเป็นระดับการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี จึงกดดันให้มีแรงขายออกมาในตลาดสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ

Gold Future (April)

มีแรงขายกลับออกมาหลังจากราคาทองดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวที่บริเวณจุดปิดสถานะซื้อที่ 1,670-1,680 ดอลลาร์ และการปรับฐานที่เกิดขึ้นในการซื้อขายวันศุกร์และวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคายังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงต่อ การดีดตัวที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างวันอาจเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆก่อนที่จะปรับฐานลงต่อ การเก็งกำไรระยะสั้นจึงสามารถเลือกเก็งกำไรด้านขายจากแนวต้านบริเวณ 1,660 ดอลลาร์ หรือในช่วงที่ราคาปรับฐานลงไปต่ำกว่า 1,640 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,665 ดอลลาร์

Silver Future (April)

ราคาโลหะเงินปรับตัวลงค่อนข้างแรงหลังจากในช่วงค่ำของวันพฤหัสราคาฟื้นตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือกรอบแนวต้านบริเวณ 32.0 ดอลลาร์ จนทำให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงต่อ จึงสามารถเลือกเก็งกำไรด้านขายทั้งในกรณีที่ราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของวันที่บริเวณ 31.60-31.70 ดอลลาร์ หรือในช่วงที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่ากรอบแนวรับบริเวณ 31.0 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 32.0 ดอลลาร์

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold – ราคาทองคาแกว่งตัวอย่างมากในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ในช่วงปลายตลาดคืนวันพฤหัสก่อนหยุดยาว ราคาพุ่งขึ้นชนแนวต้านที่ระดับ 1680 เหรียญโดยประมาณ ก่อนที่จะมาอ่อนค่าลงจากความหวังว่าเฟดไม่ได้พูดอะไรเรื่อง QE3 และยังมองว่าเรื่อง QE3 ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอความชัดเจนของเศรษฐกิจให้มากกว่านี้ ทาให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคาโดยตลอดอย่างมาก โดยวันศุกร์ราคาทองร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1650 เหรียญ และเมื่อวานนี้ราคาทองคาเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ จนกระทั่งตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวที่ออกมาแล้วไม่ค่อยดี ทาให้ในช่วงสั้นๆ ราคาทองคาขึ้นไปที่ระดับ 1658 เหรียญได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ และทองคากลับมาปิดที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงต้นสัปดาห์ที่เเล้ว โดยปิดบริเวณ 1650 เหรียญที่ตลาด Comex ทาให้มีการปรับตัวลดลงของราคาทองคาแท่งในบ้านเรา 2-3 ครั้ง ราคาทองคากลับมาอยู่ที่ระดับ 24,050 – 24,150 บาท ซึ่งลดลงประมาณบาทละ 200 บาทต่อบาททองคา จะเห็นได้ว่าจากภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วง 2 วันที่เราหยุด ออกมาค่อนข้างดี และยังมีปัญหาเรื่องการประมูลพันธบัตรของสเปนที่ยังดูว่าจะสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าที่ตลาดคาดหมาย ทาให้ค่าเงินยูโรดอลลาร์เองกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง และเมื่อวานนี้ยูโรดอลลาร์หลุดระดับ 1.3031 ดอลลาร์/ยูโร ลงมา โดยลงมาทาต่าสุดที่ระดับ 1.3015 ดอลลาร์/ยูโร และดีดกลับในปลายตลาด โดยกลับมาปิดที่ระดับ 1.3140 ดอลลาร์/ยูโร โดยภาพรวมราคาทองคายังเคลื่อนตัวทิศทาง Sideway ในกรอบ 1640-1660 เหรียญ และแกว่งตัวอยู่ในทิศทางแคบๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเงินบาทเองในช่วงวันหยุดมีการอ่อนตัวลงได้บ้าง ซึ่งทรงตัวที่บริเวณที่ระดับ 30.78-30.81 บาท

คำแนะนำการลงทุนฃ

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,645 – 1,660 เหรียญ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ในช่วงนี้คิดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เป็นลักษณะ Sideway

Weekly

หลังขายทากาไรช่วงในคืนพฤหัสบดีแล้ว วันนี้ให้เข้าช้อนซื้อบางส่วนเมื่อราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ทที่ 35-40 %

Monthly

ถือครองพอร์ทที่ 35-40 % ขายทากาไรบางส่วนเช่นเดียวกันเมื่อราคาชนแนวต้าน

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,657 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures J12 เปิดที่ 24,380 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,100 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1,653 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,652 – 1,675 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,673 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-เกิดการเทขายอย่างหนักในช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคาร่วงลง 1.2% เนื่องจากความกังวลในตัวเลขจีดีพีของจีนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ สหรัฐอเมริกาที่ออกมาต่ากว่าการคาดการณ์ โดยตัวเลขจีพีดีประจาไตรมาสแรกของจีนออกมาอยู่ที่ 8.1% ซึ่งต่ากว่าการคาดการณ์ที่ว่าจะออกมาอยู่ที่ 8.4% และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 8.9% รวมไปถึงตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมประจาเดือนมีนาคมของจีนเพิ่มขึ้น 11.9% มากกว่าการคาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ 11.5% ความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ทาลายความเชื่อมั่นอย่าง ชัดเจนในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีความเชื่ออย่างแข็งแกร่งจากหลายๆ ฝ่ายที่ว่า People’s Bank of China จะเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนทองคาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดในการหลีก เลี่ยงปัญหา hard landing ซึ่งความเชื่อดังกล่าวส่งผลให้การซื้อขายสกุลเงินหยวนของจีนเมื่อเทียบสกุล เงินดอลลาร์ได้กระตุ้นความต้องการในดอลลาร์สหรัฐ

-นายเบน เบอร์นันเก ประธานเฟด เน้นย้าถึงความสาคัญของแรงกดดันที่มีต่อกฎข้อบังคับภาคธนาคาร เช่นเดียวกับความสาคัญในเสถียรภาพทางการเงินของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา โดยเขากล่าวว่า เฟดยังคงมีการดาเนินการอย่างต่อเนื่องที่ก้าวหน้ามากขึ้นเช่นเดียวกับธนาคาร กลางอื่นๆ โดยการสนับสนุนความมั่นคงทางการเงินต้องมีย่างก้าวที่เท่ากันกับการบริหาร จัดการนโยบายทางการเงินที่มีลาดับความสาคัญที่สาคัญที่สุดมาก่อน ในสัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าจะยังคงมีความไม่แน่นอน โดยปัญหาหนี้ยุโรปยังคงมีอิทธิพลอยู่ และต้องจับตามองการประมูลพันธบัตรของสเปนในวันนี้เวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง และวันพฤหัสบดี ดูเหมือนว่าความต้องการที่เบาบางจะกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนสูงขึ้นใกล้กับระดับที่บังคับให้กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกสต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน อีกทั้งดูเหมือนว่าทองคาอาจกลับลงไปทดสอบที่ระดับ 1,600 เหรียญอีกครั้งแทนที่จะขึ้นไปสู่ระดับ 1,675 เหรียญ

-ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 เมษายน พบว่า นักลงทุนยังคงมีสถานะ bearish มากกว่า ตามที่ Fund/CTA เทรดเดอร์ควบคุมสถานะ long positions และเพิ่มสถานะ short position โดย longs position โดยรวมลดลง 0.37 ล้านออนซ์ ในขณะที่สถานะ short position โดยรวมเพิ่มขึ้น 0.33 ล้านออนซ์ และผลสุทธิก็คือ สถานะ long position สุทธิลดลง 18.01 ล้านออนซ์ Open Interest เพิ่มขึ้น 17,619 สัญญา มาอยู่ที่ระดับ 640,791 สัญญา

-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 6% เนื่องมาจากอีซีบียังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพทางการเงินของสเปนอยู่ อย่างไรก็ตาม สมาชิกฝ่ายบริหารของอีซีบีระบุว่า เขาไม่ได้คาดหวังว่าอีซีบีจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม และหวังว่าทางอีซีบีจะไม่มีการเข้าซื้อพันธบัตรอีกแม้ว่ายังมีเครื่องมือที่พร้อมที่จะทาก็ตาม