HGF
- ทองปิดบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐ
- ตลาดรอติดตามคำแถลงประธาน FED ค่ำนี้
- คาดมีแรงซื้อกลับแม้ FED ยังไม่ชัดเจนเรื่อง QE3
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในการซื้อขายช่วงค่ำหลังมีรายงานยอดขายและราคาบ้านในสหรัฐที่ดีกว่าคาด ประกอบกับรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน จึงทำให้นักลงทุนกลับมาเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงหลังปรับฐานลงในการซื้อขายหลายวันที่ผ่านมา เช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงภายหลังมีรายงานว่าการขายพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในกลุ่มยุโรปได้รับความสนใจจากนักลงทุน อย่างไรก็ตามประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจยังอยู่ที่คำแถลงการณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำของวันนี้ โดยตลาดประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังคงที่ใกล้ 0% ต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีตามที่ธนาคารกลางชองสหรัฐได้เคยแถลงไว้ในการประชุมครั้งก่อน และด้วยท่าทีของสมาชิกที่มีสิทธิออกเสียงในการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงที่ผ่านมานั้น เริ่มไม่เห็นด้วยกับการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับแรงกดดันจากประเทศคู่ค้าสำคัญๆของสหรัฐที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดจึงประเมินว่าธนาคารกลางของสหรัฐจะยังไม่ปรับเปลี่ยนคำแถลงการณ์จากการประชุมครั้งก่อน ดังนั้นหากในคำแถลงไม่มีปัจจัยใหม่ที่ทำให้ตลาดปรับมุมมองถึงความเป็นไปได้ที่จะมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ ก็จะเป็นปัจจัยลบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองต่อไป อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับฐานลงจากประเด็นนี้ไปแล้วในระดับหนึ่ง หากราคาทองปรับตัวลงแรงจากประเด็นนี้ ก็จะเป็นโอกาสในการซื้อเก็งกำไรระยะสั้น โดยคาดว่าก่อนทราบผลการประชุมราคาทองคำจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,635-1,650 ดอลลาร์ และหากคำแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐส่งผลให้มีแรงขายกลับออกมามากจนทำให้ราคาปรับฐานลงหลุดแนวรับบริเวณ 1,630 ดอลลาร์ คาดว่าราคาจะปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 1,610-1,615 ดอลลาร์ก่อนที่จะเริ่มมีการฟื้นตัวเกิดขึ้น ส่วนแนวต้านของวันหากยังไม่มีประเด็นใหม่คาดว่าราคาคงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ส่วนราคาโลหะเงินต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 30.60-30.70 ดอลลาร์ และคาดว่าราคาจะปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 30.0 ดอลลาร์ต่อไป ส่วนการฟื้นตัวของราคานั้น คาดว่าจะมีแรงขายออกมาจากแนวต้านบริเวณ 31.0-31.10 ดอลลาร์ หากไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน คาดว่าราคาคงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้
Gold Future (April)
เริ่มมีแรงขายกลับออกมาหลังจากราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านของวานนี้บริเวณ 1,645 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ส่วนในวันนี้คาดว่าราคาจะแกว่งตัวแคบเพื่อรอติดตามผลการประชุมเฟดในช่วงค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการไปแล้วหากไม่ต้องการรับความเสี่ยงควรปิดสถานะแล้วรอติดตามสถานการณ์หลังทราบผลการประชุม ส่วนกรณีที่สามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้นั้นสามารถรอเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,625-1,630 หรือ 1,615 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,610 ดอลลาร์
Silver Future (April)
มีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 31.0-31.10 ดอลลาร์ จนทำให้ราคาโลหะเงินเริ่มปรับฐานลง และคาดว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำวันนี้ การเก็งกำไรระยะสั้นสามารถรอเปิดสถานะซื้อในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 30.60-30.70 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนหรือกลับมาเก็งกำไรฝั่งขายในช่วงที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 30.40-30.50 ดอลลาร์
CGF
Price Movement
ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,643.80 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.20 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,634.60 - 1,650.10 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้นและราคาโลหะอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น โดยนักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องปัญหาหนี้ของยุโรป เมื่อการประมูลพันธบัตรของสเปนและเนเธอร์แลนด์ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ส่วนค่าเงิน USD อ่อนค่าลง จากการประกาศตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐลดลง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลง ในขณะที่ราคาน้ามันปรับสูงขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ราคาทองคาอาจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะประกาศในวันพรุ่งนี้ตามเวลาของไทย สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,641 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,630 และถัดไปบริเวณ 1,624 ส่วนแนวต้านในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,650 และถัดไปที่ 1,660 แนะนานักลงทุนที่เล่นในระยะ 1 – 2 วัน Trading ในกรอบ 1,620 – 1,660 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,688/1,700 และแนวรับบริเวณ 1,620 และถัดไป 1,612 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,612 – 1,700 USDต่อออนซ
Technical Analysis
ภาพทางเทคนิคยังเป็นแนวโน้มขาลงในระยะกลาง ความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ยังเป็นลักษณะ side way down รอการ break การปรับตัวลดลงต่ากว่าแนวรับบริเวณ 1,612 ซึ่งเป็น low ในครั้งก่อน จะทาให้แนวโน้มเป็น bearish มากขึ้น และอาจทา low ใหม่ที่บริเวณ 1,600 / 1,586 ส่วนการ break ขึ้น ผ่าน 1,680 มีโอกาสไปที่บริเวณ 1,740 ส่วนภาพกราฟในรายวันมีเส้นกดจาก MA 75 วัน บริเวณ 1,688 และเส้น MA 34 วันบริเวณ 1,656 ทาให้กรอบการขึ้นค่อนข้างจากัด คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,650/1,660มีแนวรับบริเวณ 1,630 และถัดไปบริเวณ 1,624 ส่วนภาพ candle stick มีลักษณะคล้าย hammer ทาให้เมื่อวานนี้สามารถ rebound ได้ที่บริเวณ 1,650 นักลงทุนที่ปิด long ทากาไรไปแล้ว อาจเปิด short เล่นสั้นโดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,630/1,620 หรือ Trading ในกรอบ 1,620 – 1,660
Recommendations
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,612 – 1,688 Trading ในกรอบ 1,612 – 1,688
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,800 แนะนา รอราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,670/1,680 เพื่อเปิด short โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,612/1,605
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,553 - 1920 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ
Key Points in Precious Market
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD อ่อนค่า ( + ) ราคาน้ามันปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความกังวลในเรื่องอิหร่านและปัญหาการผลิตในทะเลเหนือ ( + ) ความกังวลในเรื่องปัญหาหนี้ของยุโรป ผ่อนคลายลงเมื่อสเปนและเนเธอร์แลนด์ขายพันธบัตรได้ และค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ( + ) ความไม่แน่นอนของการประกาศนโยบายการเงินของเฟด (+/ - )
-ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐในวันที่ 24 – 25 เม.ย.การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสองในวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้งในกรีซ หลังการเลือกตั้งรอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย. การเมืองของเนเธอร์แลนด์ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลคัดค้านการปรับลดงบประมาณ ความสามารถของสเปนในการจัดการฐานะการคลัง
-การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพุธ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ เฟด ประกาศมติการประชุมกาหนดอัตราดอกเบี้ย (ต่อเนื่อง) วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดทาสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค. วันศุกร์ ต้นทุนการจ้างงานประจาไตรมาส 1/2012 ตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจาไตรมาส 1/2012
-SPDR ถือทองคาจานวนเท่าเดิม 1,281.94 ตัน
MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคายังเป็นการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway โดยเมื่อวานราคาได้มีการปรับตัวสูงขึ้นไปพยายามทดสอบแนวระดับ 1,650 เหรียญ โดยไปทาจุดสูงสุดที่ระดับ 1,648 เหรียญ และมีแรงเทขายกลับลงมา ในขณะที่ค่าเงินยูโรได้รับข่าวดีจากความสาเร็จในการประมูลพันธบัตรต่างๆ และข่าวจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือตัวเลข Consumer Confidence ที่ออกมาลดลงรวมไปถึง New Home Sales ที่ออกมาลดลง 7.1% จึงทาให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากที่ขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1.3200 ดอลลาร์/ยูโร ทาให้ราคาทองคามีแรงเทขายโดยกลับมายืนอยู่ที่ระดับ 1,642 เหรียญอีกครั้ง หลังจากขึ้นไปแนวต้านด้านบนได้ในระยะสั้นๆ ภาพรวมราคาทองคายังเป็นการแกว่งตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,630 - 1,650 เหรียญ โดยที่นักลงทุนส่วนใหญ่และตลาดยังรอการแถลงการณ์ของเฟดในคืนนี้เวลาเที่ยงคืน
สรุปได้ว่า ราคาทองคายังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบดังกล่าว 20 เหรียญ นอกจากนี้ Gold Future series J จะหมดอายุในอีก 3 วัน แนะนาให้นักลงทุนเปลี่ยนไปถือ series M ได้แล้ว โดยไม่แนะนาให้ซื้อเพิ่มใน Series J และหาจังหวะปิด Series J
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัว ในกรอบ 1,630 – 1,650 เหรียญ ขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นที่แนวต้านระดับ 1,650 เหรียญ และซื้อกลับเมื่อราคามาที่แนวรับ
Weekly
ปรับพอร์ทลดลง โดยถือครองพอร์ทที่ 10%
Monthly
ขายลดพอร์ทไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยถือครองพอร์ทที่ 10% ให้รอทิศทางที่ชัดเจนของข่าวในคืนนี้อีกครั้ง
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,638 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures J12 เปิดที่ 24,040 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,000 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,642 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,639 – 1,649 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,643 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคาได้รับผลพลอยได้จากการเข้าซื้อทองคาในอินเดีย และการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคาอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนไม่กล้าที่จะตัดสินใจทาอะไรเพื่อรอการแถลงการณ์นโยบายของเฟดในค่าคืนวันนี
-เฟดจะออกร่างแถลงการณ์เกี่ยวกับมุมมองนโยบายการเงินและเศรษฐกิจประมาณเวลา 23.30 น. ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงกล่าวซ้าในเรื่องที่จะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยไว้คงเดิมไปจนถึงปี 2014 ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นความเป็น safe haven ให้กับราคาทองคา
-ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมีนาคม ปี 2012 ลดลง 7.1% มาอยู่ที่ 328,000 ยูนิต ต่ากว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการปรับทบทวนมาอยู่ที่ 353,000 หลัง แต่มีปริมาณสูงกว่าเดือนมีนาคมปี 2011 อยู่ 7.5%
-ไอเอ็มเอฟ และรัฐบาลประเทศอาร์เจนติน่ากล่าวเมื่อวานนี้ว่า อาร์เจนติน่ามีการเพิ่มการสารองทองคาในเดือนกันยายน ปี 2011 เนื่องจากราคาเริ่มที่จะหนีจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการรายงานดังกล่าวเป็นการซื้อเข้าครั้งแรกในรอบ 6 ปี
-ความผันผวนของราคาทองคาอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการหมดอายุใน COMEX options ประจาเดือนพฤษภาคมในวันนี้ ตามที่มีทั้งฝั่ง calls และฝั่ง puts ในสัญญา options ที่นักลงทุนเฝ้าระวังผลกาไรจากการเก็งกาไรอย่างหนาแน่นที่ระดับ 1,650 เหรียญ และในปัจจุบันยังมีฝั่ง calls ประมาณ 10,000 ล็อต และมีฝั่ง puts ประมาณ 30,000 สัญญาในระดับราคาดังกล่าว