Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 26 เมษายน 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 26 เมษายน 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองคาเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,630 – 1,650 เหรียญ โดยในช่วงค่าคืนเมื่อวานที่ราคาหลุดระดับ 1,630 เหรียญลงไป ไปทาจุดต่าสุดที่ระดับ 1,626 เหรียญโดยประมาณ และในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ราคาได้ดีดกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยจะมีการซื้อขายที่ระดับ 1,645 เหรียญเป็นส่วนใหญ่ โดยตลาด COMEX ปิดตลาดที่ระดับ 1,642 เหรียญ แนวโน้มยังเป็นทิศทาง Sideway ยังไม่สามารถบ่งบอกทิศทางได้ชัดเจน ภาพรวมถ้อยแถลงของ FED ก็กลางๆไม่ได้มีมาตรการ QE และไม่มีจุดเปลี่ยนที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน ราคาทองคาจะมีแนวรับที่ระดับ 1,630 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,650 เหรียญ

สรุปได้ว่า ทองคายังเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบดังกล่าว นักลงทุน Gold Futures series J ต้องทยอยปิดสถานะลง Gold Future series J จะหมดอายุในอีก 2 วัน แนะนาให้นักลงทุนเปลี่ยนไปถือ series M ได้แล้ว โดยไม่แนะนาให้ซื้อเพิ่มใน Series J และหาจังหวะปิด Series J

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบเช่นเดิม โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,630 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,650 เหรียญ

Weekly

ยังคงเป็นการรอความชัดเจนของราคามากกว่า โดยรอเคลื่อนตัวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ถือครองพอร์ทที่ประมาณ 10% - 20%

Monthly

เข้าช้อนซื้อบางจังหวะเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ถือครองพอร์ทที่ 10% – 20% เช่นเดียวกัน

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,643 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures J12 เปิดที่ 24,170 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,000 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,643 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,635 – 1,644 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,637 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-FOMC แถลงการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการขยายตัวในระดับปานกลาง ในขณะที่สภาพของตลาดแรงงานก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และ FED จะยังคงระดับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0 – 0.25% เช่นเดิม สภาพเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการใช้ทรัพยากรในระดับต่าและมุมมองของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงตลอดช่วงระยะกลาง เป็นตัวรับประกันให้ FED คงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่าเป็นพิเศษไปจนถึงปลายปี 2014 นอกจากนี้ FOMC จะทบทวนขนาดตามปกติและการประกอบกันของการถือครองสินทรัพย์ และได้เตรียมให้ปรับการถือครองดังกล่าวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวในสภาพที่ราคามีความคงที

-US-based gold trader กล่าวว่า FOMC ไม่ได้ยอมรับถึงการรายงานล่าสุดและได้ตีพิมพ์แถลงการณ์ที่เหมือนกันกับการแถลงการณ์ในเดือนมีนาคม โดยไม่มีร่องรอยของ QE3 ในการแถลงการณ์ และนั่นเป็นสิ่งที่อธิบายการลดลงของราคาทองคาล่าสุดจากระดับ 1,640 เหรียญ ร่วงลงไปที่ระดับ 1,625 เหรียญ

-นายเบน เบอร์นันเก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการกาหนดนโยบายของ FED (FOMC) เมื่อวานนี้ว่า FED มีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และยังกล่าวด้วยว่า เขาเตรียมที่จะใช้งบดุลบัญชีของ FED เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจาเป็น แม้ FED ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิม 2.2 - 2.7% และปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% ในการประชุมครั้งนี้ แต่เบอร์นันเกกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงภาวะตึงเครียดในตลาดการเงินยุโรป และสถานะการคลังที่อ่อนแอภายในประเทศ นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์และความตึงเครียดด้านการเงินภายในประเทศ ซึ่ง FED จะต้องเตรียมรับมือ เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวรวดเร็วขึ้น"

CGF

Price Movement

ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,642.30 USDต่อออนซ์ ลดลง 1.50 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,625.00 - 1,647.60 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวลดลง 15 USDต่อออนซ์ หลังจากการประชุมของเฟดเสร็จสิ้นลง แต่ดีดตัวขึ้นได้เร็วและปิดที่ 1,642.30 USDต่อออนซ์ เมื่อนายเบอร์นันเก้ กล่าวว่า พร้อมจะดาเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยที่เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยต่าไว้เช่นเดิม และเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามแนวทางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2014 นั้นผู้กาหนดนโยบายแต่ละคนมีความเห็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ส่วนค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น จากการประกาศตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลงมากกว่าคาด ในขณะที่ราคาน้ามันปรับสูงขึ้น สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,644 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,633 และถัดไปบริเวณ 1,625 ส่วนแนวต้านในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,655 และถัดไปที่ 1,670 แนะนานักลงทุนที่เล่นในระยะ 1 – 2 วัน Trading ในกรอบ 1,625 – 1,670 และถ้าผ่านบริเวณ 1,655 ให้ Follow buy โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,688/1,700 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,688/1,700 และแนวรับบริเวณ 1,620 และถัดไป 1,612 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,612 – 1,700 USDต่อออนซ์

Technical Analysis

ภาพทางเทคนิคยังเป็นแนวโน้มขาลงในระยะกลาง ความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ยังเป็นลักษณะ side way down รอการ break คาดว่ามีโอกาสจะการ break ขึ้น ผ่าน บริเวณ 1,655 มีโอกาสไปที่บริเวณ 1,688/1,700 ส่วนภาพกราฟในรายวันมีเส้นกดจาก MA 75 วัน บริเวณ 1,688 และเส้น MA 34 วันบริเวณ 1,655 คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,655/1,670 มีแนวรับบริเวณ 1,630 และถัดไปบริเวณ 1,625 ส่วนภาพ candle stick มีลักษณะคล้าย hammer ในวันที่ 23 เม.ย. ทาให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ นักลงทุนระยะสั้นที่ปิด short ทากาไรไปแล้ว แนะนาเปิด long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 1,640/1,633 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,688/1,700

Recommendations

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,625 – 1,688 Trading ในกรอบ 1,625 – 1,688

แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,800 แนะนา รอการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเพื่อ Follow buy เมื่อยืนเหนือ 1,670 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,740/1,800

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,553 - 1920 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ

Key Points in Precious Market

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD อ่อนค่า ( + ) ราคาน้ามันปรับตัวเพิ่มขึ้น ( + ) ความกังวลในเรื่องปัญหาหนี้ของยุโรป ผ่อนคลายลงเมื่อสเปนและเนเธอร์แลนด์ขายพันธบัตรได้ และค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ( + ) ความต้องการซื้อทองคาเพื่อการลงทุนใน Gold ETF จากอินเดียเพิ่มขึ้น 44% จาก 4.23 พันล้านรูปีเป็น 6.8 พันล้านรูปีในช่วงเทศกาล Akshaya Tritaya ( + )

-ประเด็นที่ต้องติดตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสองในวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้งในกรีซ หลังการเลือกตั้งรอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย. การเมืองของเนเธอร์แลนด์ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลคัดค้านการปรับลดงบประมาณ ความสามารถของสเปนในการจัดการฐานะการคลัง

-การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดทาสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค. วันศุกร์ ต้นทุนการจ้างงานประจาไตรมาส 1/2012 ตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจาไตรมาส 1/2012

-SPDR ถือทองคาจานวนเท่าเดิม 1,281.94 ตัน

 HGF

- ทองดีดกลับหลังช่วงดึกร่วงแตะ 1,625 ดอลลาร์

- FED ยังไม่ปิดโอกาสทำ QE

- คาดทองเริ่มฟื้นแนวต้าน 1,655 และ 1,670 ดอลลาร์

ทองคำและโลหะเงินปรับฐานลงค่อนข้างแรงหลังจากที่ตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการ แต่ภายหลังทราบคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐที่ยังไม่ปิดโอกาสเรื่องมาตรการผ่อนคลายทางเงิน จึงทำให้ราคาฟื้นตัวกลับ โดยในคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐนั้น แม้ไม่ได้พูดถึงเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ภายหลังมาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะสิ้นสุดโครงการ แต่ก็ระบุถึงความพร้อมที่จะออกมาตรการในลักษณะเดียวกันนี้หากพบสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ยังได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐขึ้นจากการประเมินครั้งก่อน ทั้งอัตราเงินเฟ้อ การจ้างงาน รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม แต่ตัวเลขหลักๆทั้งเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานนั้น ธนาคารกลางสหรัฐประเมินว่ายังห่างไกลจากระดับที่ควรจะเป็น ซึ่งประเด็นต่างๆเหล่านี้ คาดว่าจะมีผลให้ตลาดประเมินถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากคำแถลงภายหลังการประชุมในครั้งก่อน กดดันราคาทองให้กลับปรับตัวลงผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ติดต่อกันต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าราคาทองคำที่ได้สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้ไปแล้วในระดับหนึ่ง หากไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ คาดว่าจะเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา ซึ่งภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคในภาพรายวันนั้น พบว่าระดับราคาปิดในแต่ละวันสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของในแต่ละวัน สะท้อนให้เห็นว่าในช่วงที่ราคาทองปรับตัวลงนั้น จะมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา ภาพการเคลื่อนไหวในระยะสั้นจึงมีโอกาสที่ราคาจะเริ่มฟื้นตัวกลับ หรือหากปรับฐานลงแรงก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา แนวรับของวันยังอยู่ที่บริเวณ 1,625-1,630 และ 1,610-1,615 ดอลลาร์ หากปรับฐานลงไปต่ำกว่าแนวรับหลัง คาดว่าราคาจะกลับลงไปเคลื่อนไหวที่แนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์ หากผ่านขึ้นไปได้ จะเกิดเป็นสัญญาณซื้อสำหรับเก็งกำไรระยะสั้น โดยคาดว่าราคาจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,670-1,680 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินภาพแท่งเทียนในรายวันเริ่มมีสัญญาณด้านบวก หากวันนี้ปิดเหนือ 31.0 ดอลลาร์ ได้ คาดว่าราคาจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นต่อไป แต่หากราคากลับปรับฐานลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 30.0 ดอลลาร์ ก็จะเป็นการยืนยันสัญญาณขายที่จะส่งผลให้ราคาปรับฐานลงต่อไป

Gold Future (April)

ราคาทองปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ หลังจากตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการไปแล้ว ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนทำให้ราคาทองดีดตัวกลับขึ้นมาปิดสูงกว่าระดับปิดของวันอังคาร และเกิดเป็นสัญญาณในทางบวกว่าราคาจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ การเก็งกำไรระยะสั้นสามารถเลือกเก็งกำไรด้านซื้อต่อ โดยมีแนวรับสำหรับเปิดสถานะอยู่ที่บริเวณ 1,635 และ 1,625-1,630ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,610-1,615 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามสัญญาซื้อขายเดือน J ใกล้หมดอายุ ควรเลือกมีสถานะในสัญญาเดือนไกลที่มีอายุคงเหลือนานหกว่า

Silver Future (April)

มีแรงขายออกมามากหลังจากราคาโลหะเงินปรับตัวลงหลุดแนวรับบริเวณ 30.50 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือแนวรับดังกล่าวได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินในทางเทคนิคเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวระยะสั้นเกิดขึ้น การเก็งกำไรระยะสั้นควรรอเปิดสถานะซื้อในช่วงที่ราคาผ่านขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 31.0ดอลลาร์ หรือปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับของวันที่บริเวณ 30.30-30.50ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 30.0 ดอลลาร์