MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคาเริ่มทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,650 เหรียญ ซึ่งป็นจุดสาคัญในการที่เป็นช่วงเปลี่ยนไประหว่างแนวโน้มขาลงไปสู่แนวโน้มที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ก่อนที่จะไปสู่แนวโน้มขาขึ้น MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคาเริ่มเข้าสู่สภาวะการหยุดตกและจะค่อยๆ กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในอีก 1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยในช่วงนี้จะเป็นช่วงของการสะสมพลัง ราคาทองคาน่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,650 – 1,675 เหรียญ ซึ่งเป็นกรอบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประมาณ 20 เหรียญ หลังจากที่ราคาทองคาลงไปทาจุดต่าสุดที่ระดับ 1,625 เหรียญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และไม่มีจุดต่าสุดใหม่ จึงวิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคาเริ่มจะหยุดตกเข้าสู่สภาวะสมดุลก่อนที่จะเป็นขาขึ้น
สรุป – ทั้งนักลงทุนระยะรายสัปดาห์และระยะยาวเริ่มเข้าซื้อมากขึ้นและปรับพอร์ทเพิ่มไปหาระดับสมดุลของแต่ละพอร์ทประมาณ 40% – 60% ตลาดราคาทองบ้านเรายังได้รับการกระทบกระเทือนจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง โดยที่เงินบาทในเช้าวันนี้ยังปรับตัวแข็งค่าลงมาอีก จากระดับ 30.80 บาท/ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ และมาอยู่ที่ระดับ 30.75 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ โดยที่เงินค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 5 สตางค์จะมีผลต่อราคาทองคาบาทละประมาณ 50 บาท/บาททองคาทีเดียว อย่างไรก็ดี MTS Gold ยังคาดว่าการปรับตัวของค่าเงินบาทยังช้ากว่าการปรับขึ้นของราคาทองคา หมายความว่า โดยภาพรวมราคาทองคาจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น การทา roll over ให้ทากาไรในระยะสั้น โดยเริ่มขายเมื่อราคาขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 1,670 เหรียญขึ้นไป เป็นการทากาไรในระยะสั้นๆ
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น ให้เข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายทากาไรบ้างเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น ถ้าราคาชนแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,660 เหรียญ ให้ทยอยขายไปบ้าง
Weekly
ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้นเป็น 30% หลังจากที่ค่อยๆ ทยอยเข้าช้อนซื้อในสัปดาห์ที่แล้ว
Monthly
ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้น ซื้อเพิ่มตามประมาณ 30% เช่นเดียวกัน
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,656 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures M12 เปิดที่ 24,420 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,150 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,656 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,664 – 1,667 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,664 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ความแตกต่างในความเคลื่อนไหวระหว่างราคาทองคากับราคาน้ามันเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง โดยนักวิเคราะห์จาก RBS นายนิค มัวร์ กล่าวว่า ราคาทองคาดูจะมีการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าราคาน้ามัน โดยปกติทั้งสองสิ่งเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เห็นการเปลี่ยนแปลง จะเห็นได้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาน้ามันดิบเบรนท์ปิดตลาดที่ระดับ 119.27 เหรียญ/บาร์เรล ปรับตัวลดลง 26 เซนต์ โดยราคาทองคามีการซื้อขายอยู่เหนือกรอบการซื้อขายในปัจจุบัน ไม่ว่าราคาทองคาจะสามารถฝ่าแนวราคาที่สูงกว่านี้ได้หรือไม่ก็ตาม ซึ่งเขากล่าวว่าเมื่อถึงช่วงสิ้นเดือนราคาทองคาจะมีการเคลื่อนไหวที่ดี
-เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวสเปนกว่า 4 หมื่นคนได้ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเรื่องมาตรการตัดลดงบประมาณการใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและการศึกษาลง 1 หมื่นล้านยูโรหรือ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ผลักดันให้เศรษฐกิจของสเปนเข้าสู่ภาวะถดถอย และส่งผลให้อัตราการว่างงานอยู่ถึงเกือบระดับ 25% (24.44%)
-นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส ผู้นาพรรคสังคมนิยมของกรีซ กาหนดนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเมื่อวันเสาร์ โดยให้คามั่นในการนาพากรีซให้รอดพ้นจากวิกฤติหนี้ภายในปี 2558 หากพรรคสังคมนิยมชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 6 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ นายเวนิเซลอสยังให้คามั่นที่จะผ่อนคลายภาระด้านภาษีสาหรับชาวกรีซที่มีรายได้ต่าและปานกลาง และจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สิน
-ผู้ค้าทองคาในอินเดีย ได้ถูกยับยั้งการเข้าซื้อทองคาท่ามกลางเทศกาลแต่งงาน เนื่องจากว่ามีการซื้อไปกักเก็บกันในปริมาณที่มาก และราคาที่พุ่งสูงขึ้นสูงสุดในรอบมากกว่า 4 เดือน
HGF
- ทองฟื้นหลัง GDP สหรัฐต่ำกว่าคาด
- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 2.42 ตัน
- TFEX ปิดทำการพรุ่งนี้ ส่วนทองแท่งซื้อขายตามปกติ
ราคาทองปรับตัวลงในการซื้อขายช่วงบ่ายของวันศุกร์ ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาจากแนวรับบริเวณ 1,645-1,650 ดอลลาร์ จนทำให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาปิดเหนือแนวต้านบริเวณ 1,660 ดอลลาร์ จึงทำให้ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคยังคงมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,670 และ 1,680 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนแนวรับสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นในระหว่างวันยกตัวขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์ หากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ หรือในกรณีที่ปรับฐานลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,640 ดอลลาร์ ก็จะเป็นการยุติสัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ก่อน และต้องระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมาจนทำให้ราคาทองคำกลับสู่ทิศทางขาลงต่อไป หากราคาสามารถผ่านขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,675-1,680 ดอลลาร์ ได้ จะเกิดเป็นสัญญาณซื้อยืนยันการฟื้นตัวในทางเทคนิค และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำก็จะกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงที่ราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าว สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นควรทยอยขายลดความเสี่ยง หรืออาจเลือกป้องกันความเสี่ยงด้วยการเข้ามามีสถานะขายผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในช่วงที่ราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 1,680 ดอลลาร์ ส่วนราคาโลหะเงินคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 31.0-31.50 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่ 31.0 ดอลลาร์ได้ การเคลื่อนไหวของราคาก็จะกลับเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานต่อไป ส่วนประเด็นข่าวที่ตลาดให้ความสนใจนั้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นเรื่องรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งตลาดจะนำมาประเมินถึงโอกาสที่จะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ รวมทั้งการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในกลุ่มยุโรป โดยในสัปดาห์นี้จะมีรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในคืนวันพุธและคืนวันศุกร์ หากรายงานออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินก็จะสนับสนุนมุมมองของตลาดว่าอาจมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางของสหรัฐ และจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หลังจากเมื่อวันศุกร์ราคาทองดีดตัวกลับภายหลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงรับตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มกลับมุมมองว่าจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางของสหรัฐ หากว่ารายงานตัวเลขต่างๆ เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว โดยในวันพรุ่งนี้ตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการในวันแรงงาน ส่วนทองคำของฮั่วเซ่งเฮงชนิดอื่นๆยังคงเปิดซื้อขายตามปกติ
Gold Future (April)
ราคาทองดีดตัวกลับขึ้นมาจากแนวรับบริเวณ 1,645-1,650 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวของราคาจึงยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ แต่อาจเริ่มแกว่งตัวแคบลงเพื่อรอติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในคืนวันพุธและศุกร์ การเก็งกำไรระยะสั้นควรรอเปิดสถานะซื้อในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,640-1,645 ดอลลาร์
Silver Future (April)
ราคาโลหะเงินดีดตัวกลับขึ้นมาจากแนวรับของวันที่บริเวณ 30.70-31.0ดอลลาร์ ก่อนที่จะมีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 31.50ดอลลาร์ จนทำให้ราคาเริ่มปรับฐานลง การเคลื่อนไหวของราคายังคงมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ แต่อาจมีการปรับฐานระยะสั้นเกิดขึ้น การเก็งกำไรในระหว่างวันควรรอเปิดสถานะในช่วงที่ราคาย่อตัวเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 30.90-31.0 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนหรือกลับมาเก็งกำไรฝั่งขายที่บริเวณ 30.70-30.80 ดอลลาร์
CGF
Price Movement
ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,664.80 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.30 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,651.10 - 1,668.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลง หลังจากการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1 ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 2.2% ต่ากว่าคาด และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงน้อยกว่า โดยในสัปดาห์ที่แล้วราคาทองคาปรับบวกขึ้นได้ จากความหวังว่าเฟดอาจจะมี QE3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก โดยมีเป้าหมายแรกบริเวณ 1,680/1,700 และสัญญาณทางเทคนิคสนับสนุน สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,657 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,655 และถัดไปบริเวณ 1,648 ส่วนแนวต้านในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,668 และถัดไปที่ 1,674 แนะนานักลงทุนที่เล่นในระยะ 1 – 2 วัน Trading ในกรอบ 1,648 – 1,674 นักลงทุนที่เปิด Long ไว้แล้ว แนะนา ให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,680/1,700 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,700/1,740 และแนวรับบริเวณ 1,640 และถัดไป 1,630 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,630 – 1,740 USDต่อออนซ์
Technical Analysis
ภาพทางเทคนิครอสัญญาณการจบรอบขาลงในระยะกลาง แต่การที่ราคาประคองตัวอยู่เหนือเส้น MA 34 วันบริเวณ 1,653 ได้ทาให้แนวโน้มในระยะสั้นส่งสัญญาณ bullish และมีโอกาสไปต่อในสัปดาห์นี้โดยมีเป้าหมายในรอบนี้บริเวณ 1,688/1,700 ภาพกราฟรายวันส่งสัญญาณซื้อเมื่อเส้น MA 4 วันตัดเส้น MA 9 และ 34 วันขึ้นมา นักลงทุนที่เปิด Long ไว้แล้ว แนะนาให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,680/1,700 คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,655 และถัดไปบริเวณ 1,648 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,700/1,740 และแนวรับบริเวณ 1,630 และถัดไป 1,620
Recommendations
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,625 – 1,688 Trading ในกรอบ 1,648 – 1,680
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,800 แนะนา รอการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเพื่อ Follow buy เมื่อยืนเหนือ 1,670 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,740/1,800
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,553 - 1920 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ
Key Points in Precious Market
-ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD อ่อนค่า ( + ) ราคาน้ามันปรับตัวเพิ่มขึ้น ( + ) ความกังวลในเรื่องหนี้สินของยุโรปและปัญหาการเมืองมีมากขึ้น เมื่อ S&P ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 2 ขั้นสู่ระดับ BBB+ และมีการชุมนุมประท้วงคัดค้านการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ( + ) ความหวังว่าเฟดอาจมีนโยบาย QE3 ( + ) ปัจจัยภายในประเทศการปรับลด Initial Margin ในการซื้อขายสัญญาทองคาล่วงหน้าลง โดยมีผลในวันนี้ ( + ) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ( - )
-ประเด็นที่ต้องติดตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสองในวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้งในกรีซ หลังการเลือกตั้งรอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย. การเมืองของเนเธอร์แลนด์ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลคัดค้านการปรับลดงบประมาณ ความสามารถของสเปนในการจัดการฐานะการคลัง
-การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันจันทร์ รายได้ส่วนบุคคล ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก วันอังคาร ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ เดือนเม.ย. ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนเม.ย. ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คเดือนเม.ย. ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนมี.ค. ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสาหรับประสิทธิภาพการผลิต และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจาไตรมาส 1/2012 จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย. วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.
-SPDR ซื้อทองคาเพิ่มขึ้น 2.42 ตัน ถือทองคาจานวน 1,284.36 ตัน