Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองคายังเคลื่อนตัวในทิศทาง sideway หลังจากที่ปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,660 เหรียญแล้วไม่ผ่าน ลักษณะยังเป็นการเคลื่อนตัวในทิศทาง sideway เพื่อรอข่าว คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,645 – 1,660 เหรียญในวันนี้ ยังคงแนะนาให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นบริเวณแนวต้าน

สรุปได้ว่า ราคาทองคายังเปลี่ยนการเคลื่อนตัวในทิศทาง sideway ในกรอบดังกล่าว

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบดังกล่าว โดยให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 1,645 เหรียญ

Weekly

ยังเป็นลักษณะการซื้อสะสม ถือครองพอร์ทที่ประมาณ 40%

Monthly

รอความชัดเจนของทิศทางตลาด ถือครองพอร์ท 30%

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,659 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures M12 เปิดที่ 24,470 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,100 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,659 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,646 – 1,660 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,650 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-นักลงทุนจับตามองการตัดสินในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่าวันนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แม้ว่าจะมีข้อเรียกร้องให้เริ่มโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อปกป้องมาตรการรัดเข็มขัดที่กระทบกับสเปน ณ ขณะนี้ก็ตาม

-เมื่อวานนี้มีการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ที่ได้สร้างความผิดหวังให้กับตลาด โดย ออกมาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับเพียง 119,000 ตาแหน่ง ซึ่งต่ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 178,000 ตาแหน่ง และลดลงจากระดับเดือนมีนาคมที่ 201,000 ตาแหน่งที่ปรับทบทวนจากระดับ 209,000 ตาแหน่ง แสดงให้เห็นถึงกลุ่มบริษัทในสหรัฐฯ มีการจ้างงานเดือนเมษายนน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าหวั่นวิตกในตลาดแรงงานและเพิ่มความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มสูญเสียการทรงตัว

-กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานลดลง 1.5% ในเดือนเมษายน ซึ่งเท่ากับการคาดการณ์ แต่เป็นระดับต่าสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2009 เนื่องจากความต้องการในอุปกรณ์การคมนาคมและขอบเขตของสินค้าอื่นๆ ลดลง

-มาร์กิต อิโคโนมิค รายงานว่า ตัวเลข Manufacturing PMI ในเดือนเมษายนลดลงสู่ระดับต่าสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ระดับ 45.9 ซึ่งลดลงจากเดือนมีนาคมที่ระดับ 47.7 และต่ากว่าการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 46.0 นอกจากนี้อัตราการว่างงานในยูโรโซนประจาเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นไปเท่ากับระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี

-Bombay Bullion Association รายงานว่า ในเดือนเมษายนอินเดียมีการนาเข้าทองคา 30 – 35 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วในเดือนเดียวกัน และยังลดการคาดการณ์การนาเข้าทองคาทั้งปีสู่ระดับ 700 – 750 ตัน จากระดับ 700 – 800 ตัน

-ข่าวทางด้านเหมืองทอง กรูโป เม็กซิโก รายงานการผลิตทองคาในไตรมาสแรกของเหมืองในเม็กซิโกที่ผลิตเต็มอัตรากาลังเพิ่มขึ้น 37% ในขณะที่ยอดขายทองคาเพิ่มขึ้น 18.115 ล้านออนซ์ หรือ 42%

CGF

Price Movement

ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,654.00 USDต่อออนซ์ ลดลง 8.40 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,646.00 - 1,663.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ราคาทองคาปรับลดลงพร้อมกับราคาหุ้น หลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด เช่น การจ้างงานทั่วประเทศลดลงมาที่ 119,000 ราย ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานลดลงมาที่ระดับ -1.5% ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจทางด้านยูโรโซน เช่น ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวลดลง และอัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 10.9% ราคาน้ามันอ่อนตัวสูงขึ้นมาที่ระดับ 105.15 USDต่อบาร์เรล สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,652 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,645 และถัดไปบริเวณ 1,640 ส่วนแนวต้านในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,660 และถัดไปที่ 1,670 แนะนานักลงทุนที่เล่นในระยะ 1 – 2 วัน Trading ในกรอบ 1,640 – 1,670 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,670/1,680 และแนวรับบริเวณ 1,640 และถัดไป 1,635 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,635 – 1,680 USDต่อออนซ์

Technical Analysis

ภาพทางเทคนิครอสัญญาณการจบรอบขาลงในระยะกลางโดยมี RSI ทาจุดต่าสุดยกตัวสูงขึ้น ส่วนในวันนี้ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลงและมีโอกาสหลุดแนวรับเส้น MA 34 วันบริเวณ 1,653 ทาให้แนวโน้มในระยะสั้นส่งสัญญาณ bearish และมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อที่บริเวณแนวรับ 1,645/1,640 และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,612 ความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ยังเป็นลักษณะ side way การปรับตัวลดลงต่ากว่า 1,612 จะยืนยันแนวโน้มราคากลับมาเป็นขาลงในระยะกลางที่ยังไม่จบ ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,670/1,680 และแนวรับบริเวณ 1,640 และถัดไป 1,635

Recommendations

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,635 – 1,680 Trading ในกรอบ 1,635 – 1,680

แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,800 แนะนา รอการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเพื่อ Follow buy เมื่อยืนเหนือ 1,670 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,740/1,800

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,553 - 1920 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ

Key Points in Precious Market

-ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD แข็งค่าโดยนักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือเงิน USD มากขึ้น ( - ) ราคาน้ามันอ่อนตัวลง ( - ) ความกังวลในเรื่องหนี้สินของยุโรปเมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนออกมาแย่อย่างต่อเนื่อง ( - ) แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ( - ) S&P ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซมาที่ระดับ CCC แต่ยังอยู่ในระดับขยะ( + )

-ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี (3 พ.ค.) การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสองในวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้งในกรีซ การเจรจาระหว่าง P5+1 และอิหร่าน (23 พ.ค.) ความสามารถของสเปนในการจัดการฐานะการคลัง

-การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี ตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสาหรับประสิทธิภาพการผลิต และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจาไตรมาส 1/2012 จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย. วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.

-SPDR ถือทองคาจานวน 1,274.09 ตัน

HGF


- ประชุม ECB วันนี้คาดตรึงดอกเบี้ย 1% ต่อไป- ทองร่วงหลังจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาด

- คาดทองแกว่งตัวแคบแต่ระวังแรงขายหากหลุดแนวรับ 1,640 ดอลลาร์

ราคาทองปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 1,645-1,650 ดอลลาร์ หลังจากในระหว่างวันมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา แต่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1,660 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ เช่นเดียวกันกับราคาโลหะเงินซึ่งในระหว่างวันเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 30.8-31.0 ดอลลาร์ แต่ก็มีแรงขายกลับออกมามากในการซื้อขายช่วงค่ำภายหลังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐที่กลับออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน จนทำให้ราคาปรับตัวลง โดยรายงานตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าระดับที่ตลาดประเมินไว้นั้น ได้สร้างความกังวลต่อนักลงทุนว่ารายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันศุกร์อาจออกมาในลักษณะเดียวกัน จึงมีแรงขายกลับออกมาในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงสวนทางกับเงินดอลลาร์ที่กลับแข็งค่าขึ้น และเป็นปัจจัยลบที่กดดันให้ราคาทองและราคาโลหะเงินปรับฐานลงในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา ส่วนในวันนี้ตลาดคงรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดว่าจะมีมติให้ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 1% ต่อไป และในการประชุมคงมีการพิจารณารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกว่าจำเป็นต้องมีการออกมาตรการใดๆเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่เคยนำมาใช้ได้เต็มวงเงินไปแล้วหากภายหลังการประชุมจบลงมีการส่งสัญญาณว่าจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานอนกภาคเกษตรของสหรัฐในช่วงค่ำของวันศุกร์ โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่ 1,645-1,650 ดอลลาร์ แต่ต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมามากหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,640 ดอลลาร์ ได้ และหากราคาดีดตัวขึ้นในระหว่างวันคาดว่าคงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,660 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงิน

Gold Future (June)

ราคาทองปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 1,650 ดอลลาร์ จึงยังสามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร แต่หากราคากลับปรับฐานลงต่อ และไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,640-1,645 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดปิดสถานะตัดขาดทุนของวานนี้ได้ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามาก จนทำให้ราคาปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ ต่อไป

Silver Future (June)

ราคาโลหะเงินปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 30.5 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดเก็งกำไรด้านซื้อจากการดีดตัวกลับในระยะสั้น จึงยังสามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรได้ต่อไป โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 30.0-30.20 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าหากราคาโลหะเงินปรับฐานลงไปต่ำกว่าบริเวณนี้ จะมีแรงขายกลับออกมามาก จนราคาปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวที่บริเวณ 29.5 ดอลลาร์ ต่อไป