MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคาเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,635 – 1,643 เหรียญในการซื้อขายเมื่อวานนี้ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในตลาดค้าทองคา MTS Gold ยังวิเคราะห์ว่า ราคาทองคาน่าจะอยู่ในทิศทาง sideway จากการที่ราคาทองคาได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรดอลลาร์ ซึ่งยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลง การที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่ามาจากปัญหาทางการเมืองของประเทศกรีซและฝรั่งเศส ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะของเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว ซึ่งภายใต้รัฐบาลใหม่อาจจะสร้างความวุ่นวายสับสนในด้านการบริหารการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กรีซยังมีการเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน สิ่งนี้เป็นตัวกดดันให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปอีก โดยเมื่อวานสกุลเงินยูโรหลุดระดับ 1.32 ดอลลาร์/ยูโรลงมา และเป็นตัวกดดันอีกครั้งหนึ่งที่ตลาดทองคา ทาให้ตลาดทองคายังอยู่ในแนวโน้มขาลงในภาพใหญ่ๆ กราฟรายวันยังเป็นทิศทางแนวโน้มขาลง โดยจะมีแนวต้านหลักอยู่ที่ระดับ 1,660 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,645 เหรียญ ซึ่งราคาทองคาดูจะมีแรงกดดันอยู่ตลอดและยังคาดว่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ไปจนกว่ามีความชัดเจนมากกว่านี้
สรุปได้ว่า แนวโน้มหลักของทองคายังเป็นทิศทางขาลงมากดดัน ให้ขายทากาไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,630 – 1,643 เหรียญ
Weekly
ค่อยๆ ทยอยขายทากาไร ลดพอร์ทลงเหลือ 30%
Monthly
ขายทากาไรลดพอร์ทลงเหลือ 30% เท่านั้น รอความชัดเจนของทิศทางตลาด ขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,636 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures M12 เปิดที่ 24,380 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,950 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,632 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,632 – 1,644 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,636 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศส นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยมคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เฉือนชนะคู่แข่งอย่างประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีไปแบบขาดลอย เนื่องจากความผิดหวังและความโกรธเคืองที่มีต่อผลงานการบริหารประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเศรษฐกิจของนายซาร์โกซี
-สถานการณ์การเมืองในกรีซยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีเสถียรภาพ ภายหลังจากที่พรรคการเมืองใหญ่ของกรีซพ่ายศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พรรคสังคมนิยมของกรีซและพรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สนับสนุนการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศนั้น ไม่สามารถดึงคะแนนเสียงจากประชาชนได้ เนื่องจากชาวกรีซไม่พอใจกับนโยบายของพรรค ตลอดจนไม่มั่นใจในศักยภาพของประเทศว่า จะปฏิบัติตามกฎของเจ้าหนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับความช่วยเหลือทางการเงินได้หรือไม่
-ในสัปดาห์ที่ผ่านมาการเก็งกาไรสุทธิขา long เพิ่มขึ้น 25.5 ตัน มายืนอยู่ที่ระดับ 473.8 ตัน อย่างไรก็ตามสถานะ long ยังคงมีไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2011 ที่อยู่ที่ระดับ 671.3 ตัน ซึ่งการเพิ่มสถานะ long ในครั้งนี้มาจากการเพิ่มขา long ใหม่ 23.9 ตัน และการลดสถานะ short ออก 1.6 ตัน
-สแตนดาร์ดแบงก์กล่าวว่า นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าตลาดทองคาจะมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยสถานะ short ก็ยังคงอยู่ในปริมาณที่ต่าเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาทองคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,600 – 1,630 เหรียญ โดยในระยะยาวราคาทองคาจะทาจุดสูงใหม่ในปีนี้ ซึ่งอาจอยู่ราวประมาณไตรมาสที่ 3
-นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้เดินทางเยือนอินเดีย โดยกล่าวว่า แม้ว่าอินเดียจะลดปริมาณการนาเข้าน้ามันจากอิหร่านลงแล้วก็ตาม แต่สหรัฐก็ยังอยากให้อินเดียลดการนาเข้าลงมากกว่านี้ ขณะที่น้ามันจากประเทศต่างๆ อาทิ ซาอุดิอาระเบียก็มีอยู่เพียงพอ และการที่อินเดียลดปริมาณการซื้อน้ามันจากอิหร่านจะช่วยเพิ่มแรงกดดันที่มีต่ออิหร่าน
CGF
Price Movement
ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,639.10 USDต่อออนซ์ ลดลง 6.10 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,632.20 - 1,644.00 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ามันที่ปรับร่วงลง และค่าเงินยูโรที่อ่อน ค่าลงหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสและกรีซมีผู้นาคนใหม่ แสดงถึงประชาชนต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด และทาให้นัก ลงทุนกังวลต่อปัญหาหนี้สินของยูโรโซน เนื่องจากอาจมีการทบทวนข้อตกลงที่ทาไว้กับ IMF ในเรื่องความช่วยเหลือทางการเงิน สาหรับ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,636 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,630 และถัดไปบริเวณ 1,625 ส่วนแนวต้าน ในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,648 และถัดไปที่ 1,653 แนะนานักลงทุนที่เล่นในระยะ 1 – 2 วัน Trading ในกรอบ 1,625 – 1,653 ส่วนใน ระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,660/1,670 และแนวรับบริเวณ 1,620 และถัดไป 1,612 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์ คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,612 – 1,670 USDต่อออนซ์
Technical Analysis
ความเคลื่อนไหวในช่วงนี้เป็นลักษณะ side way ในกรอบแคบๆ โดยราคาประคองตัวไม่หลุด 1,625 แต่มีเส้น MA หลายเส้นกดอยู่ทาให้กรอบการขึ้นคอนข้างจากัด ภาพแนวโน้มขาลงในระยะกลางยังอยู่ต่อไป ในวันนี้ราคามีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบในแนวรับ 1,625/1,620 และแนวต้าน 1,648/1,653 โดยภาพการแกว่งตัวเป็น ลักษณะการสร้างฐาน ถ้าราคาอ่อนตัวบริเวณ 1,625 คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่การปรับขึ้นค่อนข้างจากัดและอาจมีแรงขายบริเวณแนวต้านบริเวณ 1,648/1,653
Recommendations
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,620 – 1,670 Trading ในกรอบ 1,620 – 1,670
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,800 แนะนา รอการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเพื่อ Follow buy เมื่อยืนเหนือ 1,670 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,800
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,553 - 1920 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัว บริเวณแนวรับ
Key Points in Precious Market
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD แข็งค่า ( - ) ราคาน้ามันอ่อนตัวลงแรง ( - ) ความกังวลในเรื่องหนี้สินของยุโรปเมื่อการเลือกตั้งในฝรั่งเศสและกรีซได้ผู้นาคนใหม่ แสดงถึง ประชาชนต่อต้านมาตรการรัดเข็ดขัด ( - ) เฟดอาจไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ( - ) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ( + )
ประเด็นที่ต้องติดตาม การเมืองในกรีซและฝรั่งเศสหลังการเลือกตั้งว่า จะสามารถรักษาสัญญา และปฎิบัติตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้กับ IMF ได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อความช่วยเหลือทางการเงินที่ กรีซจะได้รับ การเจรจาระหว่าง P5+1 และอิหร่าน (23 พ.ค.) ความสามารถของสเปนในการ จัดการฐานะการคลัง
การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพุธ ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน มี.ค. ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมี.ค. ราคานาเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ งบประมาณของ รัฐบาลกลางเดือนเม.ย. วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ช่วงต้นเดือนพ.ค.
SPDR ซื้อทองคา 0.9 ตัน ถือทองคาจานวน 1,274.99 ตัน
HGF
- ผลเลือกตั้งยุโรปกดดันราคาทองผ่านการอ่อนค่าของเงินยูโร
- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 0.9 ตัน
- คาดทองแกว่งตัวแคบรอปัจจัยใหม่
ราคาทองคำปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงบ่ายของวันศุกร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำ และเริ่มแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบในการซื้อขายวานนี้ซึ่งตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการ โดยราคาทองดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน จนทำให้นักลงทุนประเมินถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐที่ยังมีอยู่ แต่ด้วยผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศสและกรีซในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีแนวโน้มว่าพรรครัฐบาลเดิมที่เคยสนับสนุนแนวทางการปรับลดระดับหนี้สาธารณะลง อาจไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ จนอาจนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารประเทศที่เคยตกลงร่วมกันไว้ รวมทั้งเป็นแรงกดดันต่อผู้นำของรัฐบาลเยอรมันซึ่งเคยสนับสนุนแนวทางการปรับลดรายจ่าย จนทำให้เงินยูโรกลับอ่อนค่าลงในการซื้อขายวานนี้และกดดันให้ราคาทองกลับปรับฐานลงอีกครั้ง ส่วนการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ คาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวแคบลงเพื่อรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ โดยคาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,610-1,670 ดอลลาร์ ส่วนในระหว่างวันมีแนวรับสำหรับเก็งกำระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับเดียวกับของวันศุกร์ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามาก จนทำให้ราคาทองปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,600-1,610 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนการดีดตัวกลับของราคาทองในระหว่างวัน คาดว่าคงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,655 ดอลลาร์ ได้ และด้วยทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองที่อาจปรับฐานลงได้อีก ดังนั้นการถือครองทองคำแท่งจึงยังมีความเสี่ยง ควรใช้สถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อบริหารความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านหรือปรับฐานลงหลุดแนวรับ หรืออาจใช้วิธีทยอยซื้อในช่วงที่ราคาทองปรับฐานลง ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินคาดว่าจะแกว่งตัวระหว่าง 29.50-30.50 ดอลลาร์ หากราคาดีดตัวขึ้นในระหว่างวันคงยังต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 30.30-30.50 ดอลลาร์ หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวขึ้นไปได้ คาดว่าการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินก็จะยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงต่อไป
Gold Future (June)
ราคาทองปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงบ่ายของวันศุกร์ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำ และไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,645 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ จึงทำให้ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองยังไม่ได้แตกต่างไปจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน การเก็งกำไรฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะที่แนวรับบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับเดียวกับเมื่อวันศุกร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,620ดอลลาร์
Silver Future (June)
คาดว่าราคาโลหะเงินจะยังแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 29.50-30.50 ดอลลาร์ หากในระหว่างวันราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 30.20-30.30 ดอลลาร์ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาจึงสามารถเปิดสถานะขายเก็งกำไรได้ต่อไป โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนหรือกลับมาเก็งกำไรด้านซื้ออยู่ที่บริเวณ 30.50 ดอลลาร์