HGF
- ทองพุ่งสวนสินทรัพย์เสี่ยงจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้นจากวันพฤหัส 3.62 ตัน
- คาดทองยังไปต่อเก็งกำไร FED ทำ QE รอบใหม่
ราคาทองปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรในการซื้อขายเมื่อวานนี้ หลังจากในการซื้อขายวันศุกร์ราคาทองปรับตัวขึ้นแรงภายหลังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน จนทำให้ราคาทองในวันศุกร์ดีดตัวขึ้นแรงทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดในวันเดียวในรอบกว่า 3ปี โดยคาดว่าเป็นแรงซื้อจากความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยที่เริ่มมีกลับเข้ามาจนทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์ก่อนเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวสวนทางกับราคาสินทรัพย์เสี่ยง และเงินดอลลาร์ที่เคยแข็งค่าขึ้นในช่วงที่นักลงทุนไม่มั่นใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็กลับอ่อนค่าลงภายหลังรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มปรับมุมมองเกี่ยวกับโอกาสที่ธนาคารกลางของสหรัฐจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ ซึ่งมาตรการในลักษณะดังกล่าวจะเป็นปัจจัยลบที่กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และด้วยรายงานตัวเลขการจ้างงานที่แย่กว่าที่คาดของสหรัฐในวันศุกร์ นักลงทุนจึงรอติดตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางของสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันพฤหัส โดยจะเป็นการแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐและหากมีประเด็นที่เกี่ยวกับการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ ก็จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อไป ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงสัปดาห์นี้จึงยังมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะยังฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หรือหากก่อนที่จะมีคำแถลงของประธานธนาคารกลางของสหรัฐในวันพฤหัส ราคาทองปรับตัวลง คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคหลังจากสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,570 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ ในการซื้อขายช่วงค่ำของวันศุกร์ จึงเกิดเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรรอบใหม่ และส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นในกรอบที่กว้างขึ้นจากหลายวันที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ หากมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา ที่แนวรับบริเวณ 1,610 และ 1,590-1,600ดอลลาร์ ยังเป็นระดับที่น่าสนใจเข้าซื้อเก็งกำไรได้ต่อไป ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,630 และ1,640-1,645 ดอลลาร์ ส่วนราคาโลหะเงินคาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ในปริมาณที่ต่ำกว่าราคาทอง โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 28.50-28.70 ดอลลาร์ หากผ่านขึ้นไปได้ คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามามากขึ้น และราคาก็จะขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือ 29.0 ดอลลาร์ได้ต่อไป
Gold Future (June)
ราคาทองอ่อนตัวลงสู่แนวรับสำหรับเก็งกำไรฝั่งซื้อในการซื้อขายช่วงบ่ายของวันศุกร์ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นแรงในช่วงค่ำ และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่อาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาหลังจากราคาปรับตัวขึ้นแรง โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรฝั่งซื้ออยู่ที่บริเวณ 1,610-1,615 และ 1,595-1,600 ดอลลาร์ ตามลำดับ ขณะที่แนวรับที่ 1,585-1,590 ดอลลาร์ เป็นจุดปิดสถานะตัดขาดทุน
Silver Future (June)
ราคาโลหะเงินขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 28.20 ดอลลาร์และมีแนวโน้มว่าน่าจะผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อ โดยมีแนวรับสำหรับเปิดสถานะอยู่ที่บริเวณ 28.0-28.10 ดอลลาร์ รวมทั้งกรณีที่ราคาผ่านแนวต้านบริเวณ 28.50-28.70 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 27.80-27.90 ดอลลาร์
CGF
Price Movement
ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,613.90 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,608 – 1,628 USDต่อออนซ์ ราคาในช่วงเปิดตลาดทรงตัวในกรอบ sideway จากการที่ตลาดทองคาหลักที่ลอนดอนหยุดทาการ ตลาดจึงรอแนวโน้มทิศทางที่ชัดเจนจากความคืบหน้าของข่าวในยูโรโซนและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้ ยอดคาสั่งซื้อของโรงงานที่ออกมาแย่ลง ขณะนี้ราคาทรงตัวเหนือระดับ 1600 USDต่อออนซ์ ได้จากแรงหนุนของค่าเงินยูโรที่สามารถทะลุผ่านกรอบแนวต้านสาคัญขึ้นมาได้เมื่อคืนนี้ โดยเช้าวันนี้ยังทรงตัวเหนือระดับ 1.25 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อยูโร ประกอบกับความคาดหวังในตลาดต่อสถานการณ์ยุโรปผ่อนคลายขึ้น ทาให้ทิศทางยูโรน่าจะแข็งค่าขึ้นได้อีกเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลมาถึงราคาทองคาให้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นได้ต่อไป คืนนี้มีการประชุมกลุ่ม G7 ที่คาดว่าจะมีประเด็นหลักเกี่ยวกับการเสริมสภาพคล่องเร่งด่วนให้กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศสเปน สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาอยู่ที่ระดับ 1,622 USDต่อออนซ์ คาดกรอบความเคลื่อนไหววันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,606/1,582 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,630/1,645 กรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์อยู่ระหว่าง 1,580 – 1,680
Technical Analysis
ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวันราคา break แนวต้านได้ใน 2 ระดับคือ 1,600 และ 1,625 ส่วนในวันนี้คาดว่าราคาจะยืนเหนือ 1,600 ได้และมีโอกาสสร้างฐานเหนือ 1,600 เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม อาจมีแรงขายทากาไรเมื่อถึงแนวต้านบริเวณ 1,630/1,645 ส่วนแนวรับวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,606/1,582 แนะนา นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ปิดทากาไรบางส่วนบริเวณแนวต้าน 1,630/1,645 และ รอเปิด Long ใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
Recommendations
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,600 – 1,680 Trading ในกรอบ 1,600 – 1,680
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,500 – 1,720 Trading ในกรอบ 1,500 – 1,720แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,480 - 1800 แนะนา ทยอยเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ
Key Points in Precious Market
-ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD อ่อนค่าลง ( + ) ราคาน้ามันปรับตัวเพิ่มขึ้น ( + ) ความต้องการถือทองคาเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ( + ) การคาดการณ์ว่าจะมี QE3 ( + ) ความกังวลในปัญหาการเมืองกรีซ ( - ) ความกังวลในปัญหาภาคธนาคารของสเปน และทาให้สเปนต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก EU ( - ) การขายทองคาทดแทนผลขาดทุนในตลาดหุ้น ( - )
-ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุม G7 (5 มิ.ย.) การประชุมของ ECB (6 มิ.ย.) นาย Bernanke แถลงการณ์ (7 – 8 มิ.ย.) การเมืองในกรีซซึ่งอาจมีการเลือกตั้งใหม่ (17 มิ.ย.) ซึ่งอาจมีผลทาให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือในครั้งต่อไปและอาจต้องออกจากยูโรโซน ความสามารถของสเปนในการจัดการฐานะการคลัง การเจรจาระหว่าง P5+1 และอิหร่าน (18 -19 มิ.ย.)
-การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สาคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันอังคาร ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค. วันพุธ ตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสาหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจาไตรมาส 1/2012 เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย. ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย.
-SPDR ซื้อทองคาเพิ่มขึ้น 3.62 ตัน ถือทองคาจานวน 1,273.88 ตัน