CGF
Price Movement
ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,565.50 USDต่อออนซ์ ลดลง 50.30 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,564.80 - 1,608.20 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังหลังจากที่เฟดไม่ได้ประกาศมาตรการ QE 3 และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แย่กว่าคาด ราคาน้ามันปรับตัวลดลง ทาให้นักลงทุนลดการถือครองทองคาเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารขนาดใหญ่ 15 แห่งทั่วโลกนักลงทุนหันไปถือเงิน USD ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหนัก 251 จุด ราคาน้ามันลดลงมาที่ระดับ 78.20 USDต่อบาร์เรล ค่าเงินยูโรอ่อนค่าจากแรงเทขายของนักลงทุน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนเพิ่มขึ้น สาหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,564 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ แนะนา นักลงทุนที่เปิด Short ไว้ถือต่อเพื่อปิดทากาไรบริเวณ 1,550/1,530
Technical Analysis
ภาพกราฟทางเทคนิคราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,590 โดยไปทา low ระหว่างวันที่ 1,564.80 โดยมีราคาปิดใกล้ low ของวัน แนวโน้มราคาอาจอ่อนตัวลงได้อีก คาดว่ามีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,550/1,530 ส่วนแนวต้านคาดว่าที่บริเวณ 1,570/1,583 ภาพในระยะสั้นยังเป็นขาลงต่อเนื่อง แนะนานักลงทุนที่เปิด Short ไว้ถือต่อโดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,550/1,530
Recommendations
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,609– 1,650 แนะนา ถือ Short ต่อโดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,550/1,530
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,800 แนะนา Trading ในกรอบ
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,500 - 1850
Key Points in Precious Market
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ได้แก่ ค่าเงินUSD แข็งค่าขึ้น ( - ) ราคาน้ามันปรับตัวลดลง ( - ) Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของธ.พ.ทั่วโลก 15 แห่ง ทาให้นักลงทุนหันไปถือ USD ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยแทนทองคา ( - ) เฟดไม่ได้ออกมาตรการ QE 3 ( - ) ความต้องการถือทองคาเพื่อป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - )
ประเด็นที่ต้องติดตาม การจัดตั้งรัฐบาลของกรีซพรรคที่สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดได้รับการเลือกตั้ง ทาให้กรีซไม่ต้องออกจากยูโรโซน ความสามารถของสเปนในการจัดการฐานะการคลัง การประชุมของฝรั่งเศส/เยอรมัน/อิตาลี/สเปน (22 มิ.ย.) การประชุมสุดยอดอียูที่กรุงบรัสเซลส์ (28-29 มิ.ย.) สถานการณ์ที่แย่ลงของยูโรโซน การปรับลดอันดับเครดิตประเทศและสถาบันการเงินของสถาบันจัดอันดับเครดิต การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของสเปน อิตาลี และกรีซ ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกทีมากขึ้นจากการเผชิญต่อภาวะถดถอย
การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สาคัญของสหรัฐในสัปดาห์ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจประกาศ
SPDR ถือทองคาจานวนเท่าเดิม 1,281.62 ตัน
HGF
- ดอลลาร์แข็งกดทองร่วงตามสินทรัพย์เสี่ยง
- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนและยุโรปยังมีสัญญาณชะลอตัว
- คาดทองลงต่อระยะสั้นอาจดีดตัวกลับหลังร่วงหนักเมื่อคืนนี้
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ภายหลังเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน โดยมีแรงขายกลับออกมามากในการซื้อขายช่วงค่ำ จนราคาทองปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับของเมื่อวานนี้ที่บริเวณ 1,580-1,590 ดอลลาร์ และเป็นการยืนยันสัญญาณขายในทางเทคนิค ก่อนที่จะปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,560-1,565 ดอลลาร์
เงินดอลลาร์เริ่มกลับแข็งค่าขึ้นและกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนภายหลังธนาคารกลางสหรัฐยังไม่มีท่าทีว่าจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและใช้เพียงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพื่อกดดันให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวลง เงินดอลลาร์จึงเริ่มแข็งค่าขึ้น และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงแรงในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนักลงทุนต่างเลี่ยงที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงภายหลังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของหลายประเทศ
รายงานตัวเลขภาคการผลิตจีนและยุโรปที่ยังคงหดตัวลง กดดันการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเช่นเดียวกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จึงเป็นปัจจัยลบกดดันให้มีแรงขายออกมามากในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงมาปิดต่ำกว่า 80 ดอลลาร์ ต่อ บาร์เรล และดัชนีหุ้นของสหรัฐเมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลงมากกว่า 2%
การประชุมของรัฐมนตรีคลังยุโรปที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานและต่อเนื่องถึงวันนี้ คาดว่าจะเป็นการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศสมาชิกในยูโรโซน ก่อนที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้นำยุโรปในช่วงปลายสัปดาห์หน้า และอาจเป็นประเด็นบวกในช่วงสั้นๆสำหรับราคาทองคำผ่านการแข็งค่าของเงินยูโร หากผลการประชุมมีมาตรการที่สามารถสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุน
ราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อหลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,580-1,590ดอลลาร์ ได้ แต่ด้วยราคาปรับตัวลงมามากจึงอาจมีการดีดตัวกลับในช่วงสั้นๆโดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,575-1,580 และ 1,590 ดอลลาร์ ตามลำดับ หากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าว รวมทั้งไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,555-1,560 ดอลลาร์ ได้ คาดว่าจะมีแรงขายออกมามากขึ้น จนราคาทองปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,540 และ 1,530 ดอลลาร์ ต่อไป
ราคาโลหะเงินมีแรงขายกลับออกมามากจนราคาปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 27.0 ดอลลาร์ส่วนการเคลื่อนไหวในวันนี้ด้วยราคาที่ปรับตัวลงมามากจึงอาจมีการดีดตัวกลับในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะปรับตัวลงได้อีก โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 27.30-27.50 ดอลลาร์ ซึ่งต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมา เช่นเดียวกับกรณีที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 26.60-26.70 ดอลลาร์ซึ่งคาดว่าราคาจะปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 26.0 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง
Gold Future (June)
ราคาทองอ่อนตัวลงหลุดแนวรับที่เป็นจุดปิดสถานะตัดขาดทุนการถือครองสถานะซื้อที่บริเวณ 1,580 ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวลงต่อแม้ในระยะสั้นอาจมีการดีดตัวเกิดขึ้น แต่คาดว่าที่แนวต้านบริเวณ 1,575-1,580 ดอลลาร์ จะเป็นระดับที่มีแรงขายกลับออกมามาก เช่นเดียวกับกรณีที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,555-1,560 ดอลลาร์ ดังนั้นหากราคาเข้าใกล้แนวต้านที่ 1,575-1,580 ดอลลาร์ รวมทั้งไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,555-1,560ดอลลาร์ อาจเลือกเก็งกำไรด้วยสถานะขายโดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,590 ดอลลาร์ ค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศวันนี้ปรับตัวลงน้อยกว่าปกติ
Silver Future (June)
ราคาโลหะเงินปรับตัวลงหลุดแนวรับที่เป็นจุดปิดสถานะตัดขาดทุนการถือครองฝั่งซื้อและเป็นจุดสังเกตในการเปิดสถานะขายเก็งกำไรที่บริเวณ 27.50-27.70 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มว่าราคาโลหะเงินจะปรับตัวลงต่อ แต่อาจมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ราคาปรับตัวลงมาแรง หากในระหว่างวันราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 27.20-27.50 ดอลลาร์ ยังสามารถเลือกเปิดสถานะขายเก็งกำไรได้ต่อ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนการถือครองฝั่งขายในช่วงที่ราคาโลหะเงินผ่านแนวต้านบริเวณ 27.60 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้