Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold- ราคาทองคายังมีการเคลื่อนตัวในทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นๆ เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามข่าวสภาวะการคาดหวังต่างๆ ในตลาด เช่น ประเด็นแร ก มีความ คาดหวังว่าจะมี QE3 ประเด็นที่ 2 ก็มีการมองคาดหวังการกระตุ้นเศ รษฐกิจจากอีซีบี และประเด็นที่ 3 ก็เป็นการขึ้นของทองคาตามราคาน้ามันที่ปรับ ตัวสูงขึ้น อย่างรุนแรงจากความตึงเครียดในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งประการหลังมีความเป็นไปได้สูงที่ทาให้ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้นตามราคา น้ามัน อย่างไรก็ดีภาพรวมๆ ของค่าเงินยูโรดอลลาร์จะเห็นได้ว่ าค่อนข้างทรงตัว ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นเท่าไรนักที่ระดับ 1.2585 ดอลลาร์/ยูโร แต่เมื่อวานก็มีบางช่วงที่ปรับตัวไปที่ระดับ 1.2617 ดอลลาร์/ยูโร เป็นการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของค่าเงินยูโร ในส่วนของราคาทองคาในเชิงเทคนิค จะเห็นได้ว่าในระยะสั้นเริ่มเป็นสัญญาณบวก โดยที่ ราคา ทองคาในกราฟรายชั่วโมง ไปจนถึง 8 ชั่วโมงส่งเป็น สัญญาณบวกโดยราคาปรับเหนือเส้นค่ าเฉลี่ยทุกเส้น และ Oscillator ก็เป็นสัญญาณบวกเช่นกัน โดยที่ ราคาทองคายังมีแนวต้ านสาคัญที่ระดับ 1,625 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ ย 100 วันของนักลงทุนรายวัน และแนวต้านที่ ระดับ 1,645 เหรียญ ตามลาดับ MTS Gold คาดว่าราคาทองคาไม่น่ าจะสามารถทะลุแนวต้านดังกล่ าวได้ ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวมาข้างต้ นไม่น่าจะเพียงพอจนกว่าจะมี การใช้ มาตรการ QE อย่างจริงจัง และยังมองว่ามาตรการ QE ไม่น่าจะเป็นไปได้ในระยะสั้นๆ แบบนี้ น่าจะเป็นการเล่นข่าวและป รับตัวในสภาพของข่าวมากกว่า ฉะนั้น นักลงทุนควรจะต้องระวังการแกว่งตัวในระยะสั้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ตามที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ดีในกราฟรายนาที จนถึง 60 นาที เริ่มมี Divergence ใน RSI และ MACD Histogram บ้าง ซึ่งยังคาดว่ามีโอกาสที่ราคาน่าจะตันๆ บริเวณ 1,625 เหรียญได้ คาแนะนายังให้เล่นเก็งกาไรในกรอบ 1,625 เหรียญเป็น แนวต้านด้านบน และ 1,600 เหรียญเป็นแนวรับด้านล่าง เชื่อว่าจะเคลื่อนอยู่ในกรอบดังกล่าว

สรุปได้ว่า ในระยะสั้นๆ ราคาทองคายังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่ว่าไม่คิดว่าจะสามารถทะลุ Double Top บริเวณ 1,630 เหรียญขึ้นไปได้ คงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,610 – 1,625 เหรียญ

Weekly

Wait and See ยังไม่ทาอะไรมากกว่า รอดูความ ชัดเจนของทิศทาง Portfolio อาจจะยังคงถืออยู่ เป็น Short 10% – 20% อาจ Short ตาม บริเวณ 1,645 เหรียญ

Monthly

ยังไม่ได้ทาอะไร รอความชัดเจนของทิศทางข่าว

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,598 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 24,040 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,800 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,614เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,612– 1,621 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,620 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-มีการคาดการณ์ว่า อีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.75% ในการประชุมวันพฤหัสบดี ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่จีนอาจมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ธนาคารเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่ผ่านมา

-การประกาศตัวเลข Non-farm payroll ในวันศุกร์นี้ นักลงทุนจะใช้เป็นตัวกาหนดในการพินิจพิเคราะห์ถึงความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากเฟด โดยมีการคาดการณ์จากผลสารวจรอยเตอร์ว่าภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ จะมีการเพิ่มขึ้น 90,000 ตาแหน่ง

-ราคาน้ามันดิบสหรัฐปรับตัวลดลง 26 เซนต์ มาอยู่ที่ระดับ 87.40 ดอลลาร์/บาร์เรลในเช้านี้ ณ เวลา 7.39 น. หลังจากที่ก่อนหน้านี้พุ่งสูงขึ้นกว่า 4% ไปทาจุดสูงสุดที่ระดับ 87.77 เหรียญ อย่างไรก็ตามมีความกังวลจากการคุกคามของอิหร่านในการขู่ปิดเส้นทางขนส่งน้ามันที่สาคัญ รวมไปถึงอิหร่านได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า การทดสอบศักยภาพของขีปนาวุธวิถีกลางประสบความสาเร็จ

-นายมาเรียโน ราฮอยจะหาหนทางเพื่อหลีกเลี่ยงการร้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน แม้ว่าจะมีการดาเนินการหลังการประชุมอียูซัมมิทเพื่อช่วยเหลือกลุ่มธนาคารของประเทศที่มีปัญหา และลดแรงกดดันในเรื่องต้นทุนการกู้ยืมที่สูงก็ตาม ซึ่งนายราฮอยจะเผชิญหน้ากับการเจรจาที่ยากลาบากและยาวนานเพื่อสรุปผลการช่วยเหลือ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศเลวร้ายมากขึ้น และยอดขาดดุลเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงแรงงาน 1 ใน 4 ส่วนยังตกงานอยู่

-นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อานวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวต่อสานักข่าว CNBC ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดีเท่าที่ควร และกาลังเผชิญกับความเสี่ยง 2 ประการ ได้แก่ fiscal cliff และสิ่งที่กาลังเป็นไปในยูโรโซน โดย fiscal cliff เกิดขึ้นเมื่อมีการเพิ่มภาษีและลดการใช้จ่ายที่จะมีผลกระทบในช่วงต้นปี 2013 ซึ่งหากความเสี่ยงทางด้านเพดานหนี้และ fiscal cliff มากระทบกับสหรัฐฯ อาจทาให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะหดตัว นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟยังมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโต 2% ในปีนี้ และ 2.3% ในปีหน้า

-สหรัฐระบุว่าจะทาทุกวิถีทางที่จาเป็นเพื่อทาให้ช่องแคบฮอร์มุซยังคงเป็นเส้นทางที่เปิดใช้การได้ นางวิคตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า ช่องแคบฮอร์มุซเป็นเขตน่านน้าสากล ซึ่งจาเป็นต้องเปิดเป็นเส้นทางเดินเรือของทุกประเทศที่ที่มีสิทธิใช้สัญจร