Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold- ราคาทองคาเปิดตลาดเอเชียเช้าวันนี้ลดลงมาเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 1,586 เหรียญ จากราคาปิดในตลาด COMEX เมื่อคืนวันศุกร์ประมาณ 1,588 เหรียญเศษ ภาพโดยทั่วไปยังเป็นการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งน่าจะเป็นเรื่องของความตึงเครียดในช่อง แคบฮอร์มุซที่ทาให้ราคาน้ามันปรับตัวสูงขึ้น และราคาทองคาก็มีการปรับตัวสูงขึ้นตาม อย่างไรก็ดีวันนี้มีการประกาศตัวเลขสหรัฐหลายตัว ซึ่ง โดยภาพรวมแล้ว ตัวเลขต่างๆ มีการคาดหวังว่าจะออกมาดีขึ้น และทางด้านภาคการผลิตก็ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งถ้าตัวเลขเป็นไปตามที่คาดการณ์ก็ จะส่งผลต่อราคาทองคาในทิศทางขาลง ส่วนค่าเงินดอลลาร์เองยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร มาอยู่ที่ระดับ 1.2215 ดอลลาร์ /ยูโร ลดลงมาประมาณ 18 pips ในขณะที่ค่าเงินบาทเองก็ปรับตัวอ่อนค่าลงจากคืนวันศุกร์เล็กน้อยประมาณ 3 – 4 สตางค์ มาอยู่ที่ระดับ 31.61 – 31.63 บาท/ดอลลาร์ วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ว่า ราคาทองคายังมีแนวโน้มในทิศทาง Sideway down โดยมีแนวต้านสาคัญที่ระดับ 1,600 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ 1,580 และ 1,570 เหรียญตามลาดับ ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับระยะสั้นแบบรายวันเท่านั้น

สรุปได้ว่า ภาพรวมยังมองเป็น Sideway down แนะนาให้นักลงทุนที่มี Long position ควรที่จะปิด Long เป็นอย่างน้อย

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,580 – 1,600 เหรียญ ยังคงแนะนาให้นักลงทุนทากาไรในทิศทางขา ลง ให้ทา Short position เมื่อราคาไปชนแนวต้าน ด้านบนบริเวณ 1,595 เหรียญขึ้นไป

Weekly

แนะนาให้ทากาไรในทิศทางขาลง โดยใช้พอร์ท ประมาณ 10% – 15% เช่นเดิมในการเปิด Short position

Monthly

เช่นเดียวกันเป็นการฝากทองไว้หรือยืมทองมาขาย ล่วงหน้าเพื่อเปิดทากาไรในทิศทางขาลง แทนที่จะรอ โดยใช้พอร์ทประมาณ 10% เท่านั้น

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,569 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 23,840 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,600 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,584 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,579 – 1,596 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,590 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้นเกือบถึงระดับ 1,600 เหรียญจากข่าวลือในเรื่องที่ว่า อาจมีการเข้าแทรกแซงทางการเงินเพิ่มเติมจากจีนและยุโรป ซึ่งตลาดมองเห็นถึงภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ชะลอตัวลง จากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เช่น จีดีพีของจีนประจาไตรมาสที่ 2 ชะลอตัวลงสู่ระดับต่าสุดในรอบ 3 ปีออกมาที่ระดับ 7.6% จากเดิม 8.1% และจากการที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศดาวน์เกรดพันธบัตรอิตาลีลง 2 ขั้นเมื่อวันศุกร์ อาจกระตุ้นให้เกิดการผ่อนคลายทางนโยบายการเงินเพิ่มเติม

-ตลาดหุ้นต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเจพีมอร์แกน เชส ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานผลกาไรไตรมาสที่ 2 แข็งแกร่งเกินคาดอยู่ที่ระดับ 4.96 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าผลขาดทุนในธุรกิจเทรดดิ้งในวงเงิน 4.4 พันล้านดอลลาร์

-นักวิเคราะห์หลายรายก็ยังไม่เห็นด้วยว่าจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางต่างๆ ถึงแม้ว่าราคาทองคาจะปรับตัวสูงขึ้นมาพร้อมกับตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ แต่ตลาดทองคายังคงปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันจากความคาดหวังในเรื่องมาตรการ QE3 ดูลดเลือนไป โดยที่ปรึกษาจาก Quantitative Commodity Research ได้กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าเฟดจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินในไตรมาสนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐไม่เสื่อมโทรมอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้ในสัปดาห์นี้ราคาทองคาปรับตัวลดลงอีก

-ทางฝั่งยุโรป โพลสารวจเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ชาวกรีกส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลมีการเจรจากับกลุ่มทรอยก้าเพื่อขอขยายเวลาในเรื่องการช่วยเหลือทางการเงิน ทางด้านสเปน เอกสารทางการเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า การปฏิรูปล่าสุดของสเปนจะมีการลดยอดขาดดุลลงไปอยู่ที่ระดับ 5.64 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีก 2 ปีครึ่งข้างหน้า ซึ่งเป็นปริมาณที่ลดลงไป 8.6 พันล้านยูโรจากก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่นายกรัฐมนตรีสเปน นายมาเรียโน ราฮอย ได้ให้สัญญาว่ารัฐบาลจะมีการประหยัดงบประมาณจากการเพิ่มภาษีและตัดลดการใช้จ่ายรวมมูลค่า 6.5 หมื่นล้านยูโร

-ในวันอาทิตย์ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเปิดเผยว่า เธอมีความมั่นใจว่าผู้กาหนดนโยบายส่วนใหญ่ของเยอรมนีจะสนับสนุนการช่วยเหลือภาคธนาคารสเปน ส่วนในวันอังคารและวันพุธนี้ นายเบน เบอร์นันเก จะมีการเสนอรายงานนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรส โดยกลุ่มนักลงทุนจะมองหามุมมองของเฟดในการที่จะระบุถึงมาตรการ QE3

-ข่าวทางด้านราคาน้ามัน เมื่อวันศุกร์ สัญญาน้ามันดิบ NYMEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 87.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากแนวโน้มอุปทานมีที่ตึงตัวอันเนื่องมาจากการเพิ่มมาตการคว่าบาตรต่ออิหร่านและปัญหาด้านการผลิตในทะเลเหนือ โดยล่าสุดนายอาลี ฟาดาวี ผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกาลังปกป้องการปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน กล่าวย้าเมื่อวันเสาร์ว่ากองทัพของอิหร่านได้ควบคุมช่องแคบฮอร์มุซไว้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว เขากล่าวย้าว่าอิหร่านสามารถจะปิดช่องแคบฮอร์มุซได้เต็มที่ โดยระบุว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตราบใดที่ความมั่นคงและผลประโยชน์ของอิหร่านไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากสหรัฐต้องการจะสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของภูมิภาค ทุกฝ่ายก็จะเผชิญกับความเสียหายเช่นเดียวกัน

CGF

Price Movement

 ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,592.00 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 26.70 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,565.60 - 1,596.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคาปรับขึ้นแรงพร้อมกับตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 2 ของจีนซึ่งขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงตามคาด แต่แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์บางรายคาด ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศในวันศุกร์ ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI สูงขึ้นเกินคาด 0.1% แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงมาที่ระดับ 72 จุด ต่าสุดในรอบปีนี้ ทาให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงจากระดับ 83.8 มาที่ 83.27 ส่วนราคาน้ามันดิบ Nymex พุ่งขึ้นมาที่ 87.10 ทาให้มีความต้องการทองคาเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ และค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลงช่วยสนับสนุนราคาทองคาและสินค้าโภคภัณฑ์ สาหรับราคาทองคาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10 USDต่อออนซ์ โดยราคาเคลื่อนไหวในกรอบ side way ระหว่าง 1,554 – 1,600 ส่วนในสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาจะยังคงเคลื่อนไหว side way ในกรอบต่อไปโดยมีแนวรับในระดับสัปดาห์บริเวณ 1,550/1,540 และแนวต้านบริเวณ 1,620/1,640 ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,585 คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,580/1,575/1,570 และแนวต้านบริเวณ 1,590/1,600 แนะนา นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ ปิดทากาไรและรอเปิด Long ใหม่ เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ ส่วนนักลงทุนระยะสัปดาห์ Trading ในกรอบ 1,540 – 1,640

Technical Analysis

ภาพกราฟทางเทคนิคในราย 1 ช.ม.ส่งสัญญาณการขายทากาไรเมื่อไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,597/1,590 คาดว่าวันนี้ราคาจะอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,580/1,575/1,570 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,590/1,600 ภาพกราฟทางเทคนิคในรายสัปดาห์ยังเป็นการแกว่งตัว Side way ในกรอบ 1,540 – 1,640 โดยมีแนวรับสาคัญบริเวณเส้น MA 100 สัปดาห์บริเวณ 1,550 และมีแนวต้านในระยะสัปดาห์บริเวณ 1,620 / 1,640 แนะนา นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ ปิดทากาไรและรอเปิด Long ใหม่ เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ ส่วนนักลงทุนระยะสัปดาห์ Trading ในกรอบ 1,540 – 1,640

Recommendations

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,600 แนะนา Trading ในกรอบ 1,570 – 1,600

แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,800 แนะนา รอ follow buy ถ้าผ่าน 1,640 แต่ถ้าหลุด 1,522/1,500 เปิด Short

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,500 - 1850

Key Points in Precious Market

 

-ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ( + ) ราคาน้ามันปรับตัวขึ้น (+ ) ธ.กลางประเทศต่างๆผ่อนคลายนโยบายการเงิน ( + ) เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปอ่อนแอลง ( - ) ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกสูงขึ้น ( + ) กองทุน ESM ยังไม่เริ่มดาเนินการ โดยต้องรอศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน ( - ) อัตรผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ( - ) ภาคธนาคารของสเปนได้รับเงินช่วยเหลือ ( + )

-ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุม G7 (17 ก.ค.) การประชุมของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในการอนุมัติเงินช่วยเหลือของสเปน (20 ก.ค.) เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book และการแถลงการณ์ของนายเบน เบอรนันเก้ (18 ก.ค.) การปรับลดอันดับเครดิตประเทศและสถาบันการเงินของสถาบันจัดอันดับเครดิต การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของสเปน อิตาลี และกรีซ สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณช่องแคบฮอร์มุช

-การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สาคัญของสหรัฐ วันจันทร์ ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ค. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กาลังผลิตเดือนมิ.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. วันพุธ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นาเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. แนวโน้มธุรกิจเดือนก.ค.

-SPDR ถือทองคาจานวนเท่าเดิม 1,269.73 ตัน

 HGF

- ทองปิดบวกตามตลาดหุ้น

- สัปดาห์นี้ติดตามคำแถลงเบอร์นันเก้กลางสัปดาห์

- คาดทองยังฟื้นต่อแนวต้าน 1,600 ดอลลาร์

 ราคาทองและราคาโลหะเงินปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับในการซื้อขายวันพฤหัส ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับในการซื้อขายวันศุกร์ โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามามากจนราคาโลหะทั้ง 2ชนิดดีดตัวขึ้นได้ค่อนข้างแรง แต่ก็มีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนราคาปิดในช่วงค่ำของวันศุกร์ลดช่วงบวกที่ทำไว้ในระหว่างวันลง แต่เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์พบว่า ทั้งราคาทองคำและราคาโลหะเงินสามารถปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าได้เล็กน้อย

 มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง และกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง นักลงทุนกลับมาเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐ ส่วนรายงานการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาสที่ 2 ของจีนออกมาเท่ากับที่ตลาดประเมิน จึงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินทั่วโลกค่อนข้างน้อย

 ราคาทองปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,550-1,555 ดอลลาร์ ในการซื้อขายวันพฤหัส ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับและแท่งเทียนที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าวเริ่มเกิดเป็นสัญญาณการฟื้นตัว ก่อนที่ในการซื้อขายวันศุกร์ราคาทองคำสามารถกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,580 ดอลลาร์ได้ จึงเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นในวันพฤหัส จนราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ 1,600 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงค่ำก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายกลับออกมา ซึ่งการเคลื่อนไหวของโลหะเงินก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันกับราคาทอง จึงทำให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของโลหะทั้ง 2 ชนิด ยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นต่อ

 ในช่วงต้นสัปดาห์อาจมีแรงขายกลับออกมาและกดดันให้ทั้งราคาทองและโลหะเงินย่อตัวลง แต่คาดว่าราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดยังมีแนวโน้มฟื้นตัว ดังนั้นในช่วงที่ราคาย่อตัวลงจึงสามารถทยอยซื้อเก็งกำไรต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีแนวรับสำหรับราคาทองอยู่ที่บริเวณ 1,575-1,580 และ 1,570 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่ 1,595-1,600ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่ทำไว้ในวันศุกร์ และสำหรับราคาโลหะเงินคาดว่าจะแกว่งตัว

อยู่ระหว่าง 26.50-28.0 ดอลลาร์ โดยยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับราคาทอง หากราคาย่อตัวลงในระหว่างวัน จึงสามารถทยอยซื้อเก็งกำไรได้ต่อไป

Gold Future (August)

ราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,580 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ในระหว่างวันหากราคาย่อตัวลงมีแนวรับสำหรับเปิดสถานะซื้ออยู่ที่บริเวณ 1,580-1,585 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,565-1,570 ดอลลาร์

Silver Future (August)

มีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 27.50 ดอลลาร์ จนทำให้ราคาโลหะเงินเริ่มย่อตัวลดช่วงบวกที่ทำไว้ในระหว่างวันลง แต่คาดว่าราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ จึงยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่บริเวณ 26.80-27.0 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 26.50 ดอลลาร์