MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold- ราคาทองคายังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,585 – 1,595 เหรียญในการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพียงเบาบาง ตลาดมีการแกว่งตัวบ้าง เล็กน้อยในช่วงที่มีการประกาศตัวเลข Retail Sales ของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่าก ว่าที่คาด ทาให้ยังดูว่าภาพของกาลังการซื้อของอเมริกายังไม่ดีนัก แต่ในขณะที่ ตัวเลข Empire State Manufacturing Index ออกมาดีกว่าที่คาดมากมาอยู่ที่ระดับ 7.4 ก็เรียกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังเป็นลักษณะของบวกและลบ สลับกันอยู่ ตลาดโดยทั่วไปคงรอคาแถลงของนายเบอร์นันเกต่อสภาคองเกรสในวันนี้และวันพรุ่งนี้เพื่อกาหนดทิศทางอีกครั้ง ในเชิงเทคนิค MTS Gold วิเคราะห์ ได้ว่า ราคาทองคาคงจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway จนกว่าจะมีความชัดเจนของถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรส ในขณะที่แนวต้านด้านบนของทองคาจะอยู่ที่ ระดับ 1,600 เหรียญ และ 1,615 เหรียญตามลาดับ ในส่วนของแนวรับขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,580 เหรียญ โดยที่กรอบราคาทองคาแท่งเมื่อวาน ทองคาแท่ง สมาคมอยู่ที่ระดับ 23,700/23,800 บาทต่อบาททองคา นั่นหมายความว่า ราคาทองคาของไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 23,600 บาทและมีแนวต้านที่ระดับ 23,900 บาทต่อบาททองคาในวันนี้ โดยที่ค่าเงินบาทยังเป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นดียวกัน โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55 - 31.62 บาท/ดอลลาร์ เช้า นี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามการแข็งค่าของค่าเงินยูโรดอลลาร์ที่ระดับ 1.2300 ดอลลาร์/ยูโร ยังมองว่าทองคาเป็นการเคลื่อนไหวตามทิศ ทางของค่าเงินยู โรดอลลาร์เช่นเดียวกัน
สรุปได้ว่า โดยภาพรวมยังมองเป็นแนวโน้มขาลง แต่ให้ทา Short position ตามบริเวณแนวต้านสาคัญ
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,585 – 1,600 เหรียญ
Weekly
รอทา Short position บริเวณ 1,600 เหรียญ
Monthly
รอทา Short position บริเวณ 1,615 เหรียญ
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,586 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 23,930 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,700 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,584 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,580 – 1,594 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,594 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคายังคงเคลื่อนตัวอยู่ต่ากว่าระดับ 1,600 เหรียญเมื่อคืนนี้ แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอย่างน่าผิดหวัง ได้แก่ ยอดค้าปลีกสหรัฐออกมาปรับตัวลดลง 0.5% ต่ากว่าการคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ สาขานิวยอร์กมีการฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.4 ในเดือนกรกฎาคม ออกมามากกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 3.9 โดยสัญญาทองคาตลาด COMEX ปรับตัวลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,591.6 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 30% ต่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน
-ดอยช์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ประกาศปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกสาหรับปี 2555 และ 2556 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากวิกฤตยูโรโซนที่ยืดเยื้อ ซึ่งการคาดการณ์ล่าสุดของดอยช์ แบงก์ระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะขยายตัว 3.2% ในปี 2555 และ 3.5% ในปี 2556 ซึ่งต่ากว่าการคาดการณ์ก่อนหน้าอยู่ 0.3% และ 0.4% ตามลาดับ
-ปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนในตลาดทองคามีการจับตารอการทา Testimony ของนายเบอร์นันเกในวันนี้และวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อมองหานัยสาคัญเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยนายเบอร์นันเกจะมีการจัดเตรียมรายงานเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส ในขณะที่นักลงทุนในตลาดอื่นๆ ไม่ได้คาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงในการประชุมมากนัก ซึ่งเฟดได้กล่าวไว้ว่า มีความไวต่อการตอบสนองในตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาและเฟดได้บอกใบ้ว่าอาจมีการเตรียมเข้าแทรกแซงตลาดในปลายปีนี้ ซึ่งการประชุมของ FOMC ในครั้งต่อไปมีกาหนดการในวันที่ 31 กรกฎาคม
-นายเดนนิส ล็อคฮาร์ด ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาได้ขยับเข้าใกล้การสนับสนุนการเข้าซื้อพันธบัตรรอบที่ 3 หากเศรษฐกิจระส่าระส่าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดอีกรายได้กล่าวย้าว่า ไม่มีความจาเป็นสาหรับการดาเนินการเพิ่มเติมจากเฟด
-มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยในวันนี้ว่า สัญญาณบ่งชี้ที่ว่าศาลเยอรมนีอาจจะใช้เวลาหลายเดือนในการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการที่เยอรมนีจะมีส่วนร่วมใน ESM นั้น นับเป็นปัจจัยลบสาหรับประเทศสมาชิกยูโรโซนทั้งหมด นอกจากนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยังได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ 13 แห่งของอิตาลี โดยมีสาเหตุมาจากประวัติด้านสินเชื่อที่อ่อนแอของรัฐบาลอิตาลี โดยการประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 13 แห่งมีขึ้นเพียง 4วันหลังจากที่มูดีส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีลงมาอยู่ที่ระดับ Baa2 จากระดับ A3โดยให้แนวโน้มเป็นลบ
-ข่าวด้านน้ามัน สัญญาน้ามันดิบ NTMEX ปิดพุ่งขึ้น 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 88.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตารอดูนายเบอร์นันเกแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสสหรัฐ
CGF
Price Movement
ราคาทองคาในตลาด COMEX ปิดที่ 1,591.60 USDต่อออนซ์ ลดลง 0.40 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหว ระหว่าง 1,577.20 - 1,594.60 USDต่อออนซ์ ราคาปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน และราคายังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัว ออกทางด้านข้าง ในขณะที่ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง เมื่อมีการประกาศยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลง 0.5% เป็นการลดลง ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ส่วนราคาน้ามันดิบ Nymex ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ระดับ 88.43 USDต่อบาร์เรล เมื่อมีข่าวเรือของสหรัฐ ที่อยู่นอกชายฝั่งของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยิงใส่เรือขนาดเล็กลาหนึ่งที่ไม่ปฏิบัติตามคาเตือน ส่วนปัญหาในยูโรโซน นักลงทุนกังวลต่อความล่าช้าในการใช้เงินช่วยเหลือให้กับประเทศที่มีปัญหาหนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคาเคลื่อนไหว บริเวณ 1,595 ราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยมีแรงสนับสนุนจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง ราคาน้ามันที่ปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนรอคอยคาแถลงการณ์ของประธานเฟด นายเบอร์นันเก้ในวันที่ 17 – 18 ก.ค.นี้ ซึ่งถ้าหากไม่มีมาตรการ QE3 จะเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองคาในสัปดาห์นี้ สาหรับวันนี้คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,585/1,577/1,570 และแนวต้าน บริเวณ 1,600/1,607/1,622 แนะนา นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,570 – 1,622 ส่วนในสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาจะยังคง เคลื่อนไหว side way ในกรอบต่อไปโดยมีแนวรับในระดับสัปดาห์บริเวณ 1,550/1,540 และแนวต้านบริเวณ 1,620/1,640 แนะนา นักลงทุนระยะสัปดาห์ Trading ในกรอบ 1,540 – 1,640 โดยเน้นเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ
Technical Analysis
ภาพกราฟทางเทคนิคในราย 1 ช.ม.มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ หลังจากที่อ่อนตัวลงแล้วไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,577 คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,585/1,577/1,570 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,600/1,607/1,622 ภาพกราฟทางเทคนิคในรายสัปดาห์ยังเป็นการแกว่งตัว Side way ในกรอบ 1,540 – 1,640 โดยมีแนวรับสาคัญบริเวณเส้น MA 100 สัปดาห์บริเวณ 1,550 และมีแนวต้านในระยะสัปดาห์บริเวณ 1,622 / 1,640 แนะนา นักลงทุนระยะสั้น Trading ใน กรอบ 1,570 – 1,622 ส่วนนักลงทุนระยะสัปดาห์ Trading ในกรอบ 1,540 – 1,640
Recommendations
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,570 – 1,622 แนะนา Trading ในกรอบ 1,570 – 1,622
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,800 แนะนา รอ follow buy ถ้าผ่าน 1,640 แต่ถ้าหลุด 1,522/1,500 เปิด Short
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,500 - 1850
|
Key Points in Precious Market ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคา ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ( + ) ราคาน้ามันปรับตัวขึ้น ( + ) ธ.กลางประเทศต่างๆผ่อนคลายนโยบายการเงิน ( + ) เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปอ่อนแอลง ( - ) ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกสูงขึ้น ( + ) กองทุน ESM ยังไม่เริ่มดาเนินการ โดยต้องรอศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน ( - ) ภาคธนาคารของสเปนได้รับเงินช่วยเหลือ ( + ) ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุม G7 (17 ก.ค.) การประชุมของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในการอนุมัติเงินช่วยเหลือของสเปน (20 ก.ค.) เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book และการแถลงการณ์ของนายเบน เบอรนันเก้ (18 ก.ค.) การปรับลดอันดับเครดิตประเทศและสถาบันการเงินของสถาบันจัดอันดับเครดิต การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของสเปน อิตาลี และกรีซ สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณช่องแคบฮอร์มุช การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สาคัญของสหรัฐ วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กาลังผลิตเดือนมิ.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. วันพุธ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ตัวเลขสต็อกน้ามันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นาเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. แนวโน้มธุรกิจเดือนก.ค. SPDR ขายทองคา 3.62 ตัน ถือทองคาจานวน 1,266.11 ตัน HGF - ตลาดคาดมี QE3 หลังยอดค้าปลีกสหรัฐร่วงติดต่อกัน 3 เดือน - SPDR ถือทองลดลง 3.62 ตัน - ค่ำนี้เบอร์นันเก้แถลงวันแรก ราคาทองและราคาโลหะเงินปิดตลาดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดตลาดของวันศุกร์ แต่ในระหว่างวันมีการแกว่งตัวขึ้นลงผันผวน โดยมีแรงขายกลับออกมาในการซื้อขายช่วงเย็น จนทำให้ราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับในการซื้อขายช่วงค่ำ และปิดตลาดทรงตัวจากระดับปิดของวันศุกร์ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังถึงการส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งทั้งในเอเชีย และยุโรปต่างมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินลง รวมทั้งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีสัญญาณชะลอตัว จนเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐหลายรายเริ่มให้มุมมองที่สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ ดังนั้นคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำ จึงเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ และอาจมีผลให้ราคาเหวี่ยงตัวกว้างขึ้น รายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือนมิถุนายนของสหรัฐออกมาแย่ลงสวนทางกับที่คาดแต่ด้วยการรายงานผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในสหรัฐเมื่อคืนนี้ค่อนข้างทรงตัว โดยคาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากนักลงทุนต่างรอติดตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วง ค่ำ จึงทำให้โดยรวมแล้วตลาดการเงินทั้งในสหรัฐและยุโรปปิดตลาดค่อนข้างทรงตัว ภาพเทคนิคของทั้งราคาทองและโลหะเงินยังไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน โดยราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับในการซื้อขายช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับในการซื้อขายช่วงค่ำ จึงยังมีแนวโน้มที่ราคาจะยังฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ในวันนี้ถ้าราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดปรับตัวลงระหว่างวัน ยังสามารถทยอยซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวจากแนวรับบริเวณ 1,575-1,580 ดอลลาร์สำหรับราคาทอง และ 26.80-27.0 ดอลลาร์ สำหรับราคาโลหะเงิน ส่วนแนวต้านของวันยังอยู่ที่บริเวณ 1,595-1,600 ดอลลาร์ สำหรับราคาทอง และ 27.50-27.70 ดอลลาร์สำหรับราคาโลหะเงิน โดยประเด็นหลักที่ อาจทำให้ราคาทองและราคาโลหะเงินแกว่งตัวขึ้นลงผันผวนอยู่ที่การแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำของวันนี้และพรุ่งนี้ ดังนั้นในระหว่างวันคาดว่าราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดจะยังแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ Gold Future (August) คาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอติดตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้และพรุ่งนี้ แต่หากมีแรงขายกลับออกมาจนราคาทองปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับที่บริเวณ 1,580-1,585ดอลลาร์ ยังสามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,565-1,570 ดอลลาร์ Silver Future (August) ราคาโลหะเงินดีดตัวขึ้นจากแนวรับของวันบริเวณ 26.80-27.0ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะดีดตัวขึ้นได้ต่อ จึงสามารถถือครองสถานะซื้อต่อไป หรือหากราคาปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับดังกล่าว ก็ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้เช่นเดียวกันกับเมื่อวานโดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 26.50 ดอลลาร์ |