Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold- ราคาทองคาเมื่อวานนี้ในตลาด COMEX ปรับตัวขึ้นอย่างมากกว่า 1.5% โดยที่เปิดตลาดที่ระดับ 1,584 เหรียญ และขึ้นไปทาจุดสูงสุดในตลาด COMEX ที่ระดับ 1,609 เหรียญโดยประมาณ ภาพรวมของการปรับตัวสูงขึ้นยังเป็นการเล่นข่าวสองเรื่องคือ การที่สมาชิกบริหารของอีซีบีออกมาแถลงว่าจะ พยายามให้กองทุน ESM ปรับเพิ่มระดับเงินทุน เพื่อให้ธนาคารมี ความสามารถเอาชนะวิกฤตได้ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่จะมีการเพิ่มขนาดกองทุนของ ESM เพื่อที่จะเพิ่มเงินเข้ามาช่วยเหลือภาคธนาคารต่างๆ ทาให้ค่าเงินยูโรกลับดีดตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.2060 ดอลลาร์/ยูโรไปที่ระดับ 1.2115 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวาน นี้ โดยที่ในช่วงค่าหลังจากที่ตั วเลข New Home Sales ออกมาต่ากว่าที่คาดถึง 8% ก็มีส่วนกระตุ้นแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคาให้สามารถทะลุ 1,600 เหรียญขึ้นมา และทาให้ทองคายังสามารถปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบแนวต้านสาคัญที่ระดับ 1,610 ได้ โดยยังมีความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ QE3 กลับมาอีกคั้ง ในการประชุม FOMC วันที่ 31 กรกฎาคม และวันที่ 1 สิงหาคม MTS Gold วิเคราะห์ว่า ในเชิงเทคนิคแล้วราคาทองคายังมีแนวต้านสาคัญ อยู่อีก 2 – 3 แนวที่ระดับ 1,620 เหรียญและ 1,635 เหรียญ ถึงจะสามารถเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้ ราคาน่าจะขยับเป็นลักษณะของ Sideway up อย่างช้า ๆ จากเดิมที่เป็น Sideway down จึงแนะนาให้นักลงทุนเก็งกาไรในกรอบ 1,590 - 1,610 เหรียญ ค่าเงินบาทเองก็กลับแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานกว่า 12 สตางค์ จึงเป็นสาเหตุให้ราคาทองคาในรูปของเงินบาทนั้นยังปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนัก

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวของราคาทองคาใน กรอบ 1590 – 1610 โดยที่แนะนาในเป็นการ เก็งกาไรในระยะสั้นๆ

Weekly

พอร์ทน่าจะอยู่ที่ระดับ 0% จึงไม่น่าจะกระทบกระเทือน มากนักเนื่องจากได้แนะนาให้ปิดสถานะ Short position ไปหมดแล้ว โดยภาพรวมยังมองว่าทองคา น่าจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ยังไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้น ถึง 1,610 เหรียญได้

Monthly

เช่นเดียวกันกับนักลงทุนระยะสั้น 7 – 20 วัน (Weekly Trade)

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,584 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 23,870 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,750 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,600 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,598 – 1,605 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,600 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-วอลสตรีท เจอนัล รายงานว่า ขณะนี้เฟดกาลังมีการพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะมีการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อไหร่และใช้อย่างไร ที่มีเป้าหมายยกระดับเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งกลุ่มเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆ อาจมีการดาเนินการเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์หน้าในวันที่ 31 กรกฎาคม และ 1 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจรอจนถึงการประชุมในเดือนกันยายน เพื่อสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากขึ้นเกี่ยวกับย่างก้าวการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงานก่อนที่จะตัดสินใจทาอะไร

-สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากจุดต่าสุดในรอบ 2 ปีมาอยู่ที่ระดับ 1.2130 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากมีการออกความเห็นเชิงบวกจากสมาชิกสภาบริหารของอีซีบี นายเอวัลด์ โนวอตนี ที่กล่าวว่า กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของยูโรโซน อาจสามารถขยายวงเงินปล่อยกู้เกิน 5 แสนล้านยูโรได้ หากกองทุน ESM ได้ใบอนุญาตทาธุรกิจธนาคาร ซึ่งจะทาให้ ESMสามารถเข้าถึงเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรปได้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายโนวอตนีทาให้ตลาดมีความหวังมากขึ้นเรื่องการจัดการกับวิกฤตหนี้ยุโรป เนื่องจากตลาดกังวลอยู่ว่าวงเงินปัจจุบันของกองทุน ESM มีขนาดใหญ่ไม่มากพอที่จะช่วยเหลือสเปนและอิตาลีได้

-ช่วงประมาณเที่ยงคืนทีผ่านมา อีแกน-โจนส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 3 ขั้นสู่ระดับ CCC+ ซึ่งเป็นระดับขยะ จากเดิมที่ B+ โดยระบุว่าอิตาลีมีแนวโน้มจะต้องช่วยเหลือภาคธนาคารที่ย่าแย่เช่นเดียวกับสเปน ขณะที่ยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับศักยภาพของอิตาลีในการสนับสนุนระบบธนาคารของประเทศ เมื่อพิจารณาจากสถานภาพที่อ่อนแอของประเทศ

-ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นตามที่มีความคาดหวังว่ากลุ่มธนาคารต่างๆ จะมีการดาเนินการเพิ่มเติมเพื่อลดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการเข้าซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงที่ระดับต้นทุนความเสี่ยงต่ากว่าในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

-เทรดเดอร์ต่างๆ กล่าวอ้างถึงการเข้าซื้อทางเทคนิคเมื่อวานนี้มาจากการฟื้นตัวของราคาเหนือแนวต้านในกราฟของเส้นค่าเฉลี่ย 20 และ 50 วัน และนอกจากนี้การซื้อขายของสัญญา Options ในตลาด COMEX และการซื้อเข้าจากกองทุน SPDR ก็เป็นส่วนสนับสนุนราคาทองคาเช่นกัน

-สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สตลาด COMEX ปรับตัวสูงขึ้น 31.90 เหรียญ ปิดตลาดที่ระดับ 1,608.10 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 60% เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยตลอดเดือนกรกฎาคมราคาทองคามีการเคลื่อนไหวในกรอบ 75 เหรียญ ซึ่งเป็นเดือนที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายน

HGF

- ทองฟื้นเก็งกำไรเฟดออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

- SPDR ถือทองลดลง 2.11 ตัน

- คาดปรับฐานระยะสั้นแนวรับ 1,590 ดอลลาร์

 ราคาทองคำและราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นตั้งแต่ในการซื้อขายช่วงเช้าวานนี้ ก่อนที่ในช่วงเย็นได้เริ่มมีแรงซื้อเข้ามามากขึ้น จนราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,605-1,610 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับราคาโลหะเงินซึ่งมีแรงซื้อเข้ามามากจนราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 27.50 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงค่ำ ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับดังกล่าวต่อเนื่องมากจนถึงการซื้อขายช่วงเช้าของวันนี้

 ช่วงเย็นวานนี้มีรายงานตัวเลขภาคการผลิตของประเทศในกลุ่มยุโรป ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สะท้อนว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนอยู่ในช่วงหดตัว ภาคการผลิตของเยอรมันและฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มก็มีแนวโน้มหดตัวเช่นเดียวกัน ปัจจัยเหล่านี้จึงยังเป็นปัจจัยลบกดดันการลงทุนในภาพโดยรวม แต่คาดว่าตลาดได้รับรู้

ข่าวในลักษณะนี้ไปบ้างแล้ว จึงเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นกลับเข้ามา

 นอกจากรายงานตัวเลขภาคการผลิตของยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงแล้ว ในช่วงค่ำที่ผ่านมา รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ โดยรวมออกมาแย่กว่าที่ตลาดประเมิน จนทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมินว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐในอนาคต ดังนั้นการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า จึงน่าจะกลับมาเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจ

 คาดว่าราคาทองและราคาโลหะเงินยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้าก่อนที่จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ดังนั้นหากมีการปรับฐานในระยะสั้นเกิดขึ้น จึงยังสามารถซื้อเก็งกำไรได้ต่อไป ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของทั้งราคาทองและราคาโลหะเงิน ยังคงมีแนวโน้มว่าราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หากในระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา คาดว่าที่แนวรับบริเวณ 1,590-1,595 ดอลลาร์ ยังคงเป็นแนวรับที่ราคาทองจะใช้เป็นจุดดีดตัวกลับขึ้นได้ต่อ เช่นเดียวกับราคาโลหะเงินซึ่งคาดว่าหากปรับตัวลงในระหว่างวัน มีแนวรับสำหรับซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 26.80-27.0 ดอลลาร์ จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนทำให้ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นได้ต่อไป

Gold Future (August)

ในระหว่างวันอาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา หากราคาย่อตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,590-1,595 ดอลลาร์ ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนหรือกลับมาเก็งกำไรด้านขายในช่วงที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,580 ดอลลาร์

Silver Future (August)

ราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อ แต่อาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรฝั่งซื้ออยู่ที่บริเวณ 27.0 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 26.80 ดอลลาร์