Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ราคาทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold- ราคาทองคายังทรงตัวได้ในระดับสูงเหนือระดับ 1,610 เหรียญไปได้ หลังจากที่มีการดีดตัวกลับขึ้นมากว่า 10 เหรียญในช่วงเวลาสองวันทาการที่ ผ่านมา การที่ราคาทองคายังยืนอยู่เหนือระดับ 1,610 เหรียญ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ในระยะยาวที่อาจจะดีดฟื้นกลับตัวขึ้นมาได้ อย่างไรก็ดีทองคายังมีแนว ต้านสาคัญที่เหลืออีกค่อนข้างมากบริเวณ 1,620 เหรียญและ 1,630 เหรียญตามลาดับ แนวรับขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,595 เหรียญ ยังมองว่าโดยภาพรวม ราคาทองคายังเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway up และแนะนาให้นักลงทุนเก็งกาไรในทิศทางขาขึ้นระหว่าง 1,600 – 1,620 เหรียญ ยังไม่แนะนาให้ทา Short position เท่าไรนัก อาจจะเปิด Long position สาหรับนักลงทุนระยะยาวได้ ข่าวทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังไม่มีความชัดเจนนักที่จะมีสัญญาณการใช้ QE3 ซึ่งเป็นข่าวที่นักลงทุนเริ่มมาคาดหวังอีกครั้งหนึ่ง โดยยังไม่แน่ว่าถ้าวันที่ 31 กรกฎาคมไม่ได้มีเรื่องการใช้ QE3 ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ราคาทองคาอาจ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงได้ จึงอยู่ในช่วงของการที่จะตั้งเป้ารอมากกว่าที่จะเป็นการกาหนดทิศทางใดชัดเจน

สรุปได้ว่า การขยับตัวของทองคายังไม่มีความชัดเจนในทิศทางมากนัก

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,600 -1,620 เหรียญ ถ้าขึ้นหรือลงจากกรอบนี้ก็แนะนาให้ใช้ Stop loss เพื่อป้องกันความเสี่ยง

Weekly

แนะนาให้เริ่มทยอยเปิด Long Position เมื่อราคาอ่อน ตัวลงมาบริเวณแนวรับ โดยใช้พอร์ทประมาณ 10% - 20%

Monthly

เปิด Long Position เมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,595 เหรียญลงมา

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,605 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 24,100 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,900 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,619 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,610 – 1,620 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,613 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 วันทาการ โดยเมื่อคืนปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% หลังจากคาให้สัญญาของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ที่ระบุว่าจะปกป้องสกุลเงินยูโร โดยนายดรากีกล่าวว่า “อีซีบีพร้อมที่จะดาเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร และพร้อมจะทาทุกวิถีทางที่จาเป็นภายในขอบเขตอานาจของอีซีบี เพื่อยับยั้งการล่มสลายของยูโรโซน และขอให้เชื่อมั่นว่า การดาเนินการเช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทาให้ยูโรโซนอยู่รอดปลอดภัย ซึ่งการจัดการกับต้นทุนการกู้ยืมที่อยู่ในระดับสูงของรัฐบาลในยูโรโซนถือเป็นสิ่งที่อยู่ภายในขอบเขตอานาจของอีซีบี” จากข่าวดังกล่าวทาให้เกิดความหวังมากขึ้นว่าจะเกิดการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับ 1.2330 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1.5 เซนต์จากระดับปิดตลาด ในขณะที่ Dollar Index อ่อนค่าลงสู่ระดับ 82.58

-นายอดัม ซาฮาน ประธานฝ่ายบริหารจากซาฮาน แคปปิตอลระบุว่า ตอนนี้ราคาทองคากาลังขึ้นมาทดสอบแนวต้าน และหากสามารถฝ่าแนวต้านขึ้นไปได้ จะเห็นช่วงการไต่ขึ้นของราคาทองคาสูงขึ้นอีก ซึ่งเขามองว่าจุดเปลี่ยนทิศทางของราคาทองคาอยู่ที่ระดับ 1,660 เหรียญ โดยดูจาก Downward-sloping curve ที่ลากไปสู่ระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ในกราฟรายสัปดาห์

-นักกลยุทธ์จาก CitiFX ระบุในรายงานว่า ราคาทองคามีลักษณะ Bullish double-bottom pattern และเป้าหมายถัดไปอยู่ใกล้กับระดับ 1,800 เหรียญ หลังจากที่ราคาสามารถฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1,688 เหรียญไปได้ อย่างไรก็ตาม การประกาศตัวเลข Unemployment Claims ของสหรัฐออกมาดีขึ้น คือคนตกงานลดลงเกินคาดถึง 35,000 ตาแหน่ง ลงมาอยู่ที่ระดับ 353,000 ตาแหน่ง จากเดิมที่มีการปรับทบทวนขึ้นมาที่ระดับ 388,000 ตาแหน่ง แม้ว่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่ถึงกระนั้นจานวนผู้ขอรับสวัสดิการที่ลดลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 สัปดาห์ก็ช่วยจุดประกายความหวังว่าตลาดแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

-Ann-Laure Tremblay จากบีเอ็นพี พาลิบาส เชื่อว่า ตลาดกาลังจัดวางตาแหน่งของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมสาหรับการเข้าแทรกแซงจากธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธนาคารกลางสหรัฐ โดยมีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้นว่า เฟดจะออกมาตรการ QE3 ในเดือนหน้า ซึ่งกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ของบีเอ็นพี พาลิบาสหลายรายเชื่อว่า อาจมีการประกาศใช้มาตรการ QE3 ในการแถลงการณ์ที่แจคสัน ฮอลล์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งก่อนหน้านี้นายเบอร์นันเกเคยใช้โอกาสในการแถลงการณ์ต่อสาธารณชนเพื่อประกาศมาตรการ QE ก่อนหน้านี้มาแล้ว

-แบร์ริค โกลด์ คอร์ป ผู้ผลิตทองคาอันดับหนึ่งของโลก ได้รายงานผลกาไรรายไตรมาสลดลงถึง 35% และได้เตือนถึงระดับต้นทุนของหนึ่งในโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดอาจมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ นิวมอนท์ ไมน์นิ่ง คอร์ป ผู้ผลิตทองคาอันดับสองของโลก รายงานผลกาไรไตรมาสที่ 2 ลดลง 30% ในผลผลิตทองคาและทองแดง และได้ลดมุมมองการผลิตตลอดทั้งปีลง

-ผู้ประกาศข่าวจากวอลสตรีท เจอนัลรายงานว่า ตลาดทองคามีแนวโน้มในทิศทางขาขึ้นมาตั้งแต่วันพุธ โดยชี้ให้เห็นว่ามุมมองดังกล่าวเป็นช่วงเวลาของความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเข้าแทรกแซงทางการเงิน โดยเฟดจะมีการประชุม FOMC ในวันอังคารและวันพุธของสัปดาห์หน้า

HGF

- ทองปิดบวกตามสินทรัพย์เสี่ยง

- เก็งกำไรการประชุม FED /ECB สัปดาห์หน้า

- ใกล้แนวต้าน 1,625 ดอลลาร์ ระวังแรงขายทำกำไร

 ราคาทองคำและราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นตั้งแต่ในการซื้อขายช่วงเช้าวานนี้ ก่อนที่ในช่วงเย็นได้เริ่มมีแรงซื้อเข้ามามากขึ้น จนราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,615-1,620 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับราคาโลหะเงินซึ่งมีแรงซื้อเข้ามามากจนราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 27.50 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงค่ำ ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับดังกล่าวต่อเนื่องมากจนถึงการซื้อขายช่วงเช้าของวันนี้

 ในสัปดาห์หน้า นอกจากจะมีการประชุมองธนาคารกลางสหรัฐในวันอังคารและวันพุธแล้ว ก็จะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางของอังกฤษ ด้วยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกในยูโรโซนที่มีสัญญาณชะลอตัว ประธานธนาคารกลางยุโรปจึงเริ่มส่งสัญญาณว่าอาจมีการออกมารการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมสัปดาห์หน้า นักลงทุนจึงนำประเด็นนี้กลับมาเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและเป็นปัจจัยลบที่กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา

 ราคาทองยังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐและยุโรปในสัปดาห์หน้า โดยคืนวันนี้การประกาศ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคโดยรวมแล้วราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ อย่างไรก็ตามที่แนวต้านบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ มีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ยืนขวางอยู่ และหลายครั้งที่ราคาทองดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้านจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เส้นนี้ ก็มักจะมีแรงขายกลับออกมามาก จนราคาปรับตัวลงแรง ดังนั้นหากราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าว ควรทยอยขายเพื่อลดความเสี่ยง หรืออาจใช้สถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนไกลป้องกันความเสี่ยงคู่กับการถือครองทองคำแท่ง

 การเคลื่อนไหวของราคาทองและราคาโลหะเงินในวันนี้ คาดว่าอาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่บริเวณ 1,600-1,605 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองและบริเวณ 27.0-27.20 ดอลลาร์ สำหรับราคาโลหะเงิน ส่วนกรณีที่ราคาดีดตัวขึ้นต่อในระหว่างวัน คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 1,625-1,630ดอลลาร์ และ 27.80-28.0 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองและราคาโลหะเงินตามลำดับ

Gold Future (August)

หากราคาทองฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,625-1,630 ดอลลาร์ คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายกลับออกมา หากถือครองสถานะซื้ออยู่ ควรปิดสถานะลดความเสี่ยง และหากสามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ ภาพการฟื้นตัวของราคาก็จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น และจึงจะกลับมาน่าสนใจเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรรอบใหม่ ส่วนกรณีที่ราคาอ่อนตัวลงในระหว่างวัน มีแนวรับอยู่ที่ 1,595-1,600 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,580 ดอลลาร์

Silver Future (August)

คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาหลังจากราคาดีดตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วัน แต่ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อไปโดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 27.0-27.20 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนและกลับมาเก็งกำไรด้านขายอยู่ที่บริเวณ 26.70-26.80 ดอลลาร์