Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold- ราคาทองคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยมีการปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,618 เหรียญโดยประมาณ ข่าว เศรษฐกิจโดยทั่วไปไม่มีตั วเลขที่สาคัญใดๆ ในขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่ าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ โดยขึ้นมาทดสอบที่ระดับ 1.2430 ดอลลาร์/ยูโรได้ ท่ามกลางการคาดหวังการอัดฉีดเงิ นเข้ามาช่วยยูโร โดยเมื่อวานค่าเงินยูโรอยู่ที่ ระดับ 1.2440 ดอลลาร์/ยูโร ค่าเงินบาทเองทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 31.49 – 31.51 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปริมาณการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ค่อนข้างเบาบาง และปริมาณการซื้อทองคาในอินเดี ยก็ค่อนข้างเบาบางเช่นเดียวกัน MTS Gold ยังวิเคราะห์ว่าราคาทองคาน่าจะเคลื่อนตัวอยู่ ในกรอบ Sideway แคบๆ ระหว่าง 1,605 – 1,620 เหรียญต่อไปจนกว่าจะมีทิศทางความชัดเจนของตัวเลขเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แนวต้านสาคัญยังอยู่คงที่ระดับ 1,630 เหรียญ ซึ่งบริเวณ 1,620 เหรียญจะเป็นแนวต้านแรก

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,605 – 1,620 เหรียญ โดยขายบริเวณแนวต้านและซื้อกลับบริเวณ แนวรับ คาดว่าเงินบาทคงไม่แกว่งตัวมากนัก เช่นเดียวกัน เช้านี้เงินบาทอยู่ที่ 31.52 บาท/ดอลลาร์ โดยประมาณ

Weekly

ยังแนะนาให้ทยอยเข้าซื้อเก็บเมื่อราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ท

Monthly

ทยอยซื้อเก็บเช่นเดียวกัน ถือครองพอร์ท 25%

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,611 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 24,130 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,950 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,614 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,609 – 1,618 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,612 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-นักลงทุนยังคงมีความไม่มั่นใจว่า ธนาคารกลางต่างๆ จะดาเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ แม้ว่าส่วนใหญ่การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคาจะได้รับแรงสนับสนุนจากการขับเคลื่อนโดยสกุลเงินยูโร ซึ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์เป็นวันที่ 3 จากระดับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 6.63% ในขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีก็ปรับตัวลงเช่นกันที่ระดับ 5.88% ทั้งนี้ตลาดหุ้น ราคาน้ามันดิบ และค่าเงินยูโรที่ปรับตัวสูงขึ้นก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนให้เข้าซื้อหรือขายทองคาได้มากนัก

-ปริมาณการซื้อขายในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สเมื่อวานอยู่ใกล้บริเวณจุดต่าสุดในปีนี้ โดยเทรดเดอร์กล่าวว่า การรายงานตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาให้เฟดไม่มั่นใจว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หรือจะยังคงระงับการดาเนินการใดๆ ต่อไป

-เอสแอนด์พี ปรับทบทวนมุมมองของกรีซให้อยู่ในระดับมุมมองเชิงลบ โดยระบุว่า ประเทศกรีซจาเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ

-ข้อมูลเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปที่ออกมาเมื่อวานได้แก่ ยอดสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนีปรับตัวลดลงเกินคาดในเดือนมิถุนายน 1.7% แย่กว่าการคาดการณ์ที่ระดับติดลบ 0.9% ในขณะที่จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของอิตาลีที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจอิตาลีหดตัว 0.7% ตรงกับการคาดการณ์ส่วนใหญ่และดีขึ้นกว่าครั้งก่อนที่หดตัว 0.8% และเมื่อเทียบเป็นรายปีเศรษฐกิจอิตาลีหดตัวถึง 2.5% ซึ่งเป็นความพยายามที่คุกคามโดยรัฐบาลของนายมาริโอ มอนติที่จะควบคุมวิกฤตหนี้ที่ส่งผลกระทบต่อยูโรโซน

-ราคาทองคาไม่ได้รับผลอะไรมากนักจะคากล่าวของนายเอริค โรเซงเรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน ที่กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางควรออกแผนเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่ไม่ว่าในขนาดใดก็ตาม และระยะเวลามีความจาเป็นในการดึงเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งนายโรเซงเรนไม่ใช่หนึ่งในผู้ลงมติของคณะผู้จัดตั้งนโยบาย ตลาดยังคงจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลข Trade Balance ของจีนที่มีการคาดการณ์ว่า จีนจะมียอดเกินดุลที่ระดับ 3.51 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขครั้งก่อน 3.2 พันล้านดอลลาร์

-Dealers ระบุว่า ปริมาณความต้องการทองคาในอินเดียยังคงเบาบางก่อนช่วงเทศกาลฮินดู และเทศกาลแต่งงานของอินเดีย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในการเข้าซื้อทองคาหลักๆ ของประเทศ โดยจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนนี้ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้แหล่งข้อมูลกล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีการคาดการณ์ว่า ปริมาณความต้องการทองคาในอินเดียจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากจะมีเทศกาลดิวาลีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเทศกาลดังกล่าวเป็นเทศกาลมงคลที่ผู้คนจะเข้าซื้อและมอบเครื่องประดับทองคาให้แก่กัน และเชื่อว่าจะเป็นการนาโชคลาภและความมั่งคั่งมาสู่ผู้ซื้อและผู้ให้

-บาร์เคลย์ แคปปิตอลระบุในรายงานเมื่อวานนี้ว่า ซิลเวอร์ทาจุดสูงสุดในปีนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ระดับเหนือ 37 เหรียญ และปรับตัวลดลงสู่การซื้อขายในกรอบ และกาลังพยายามฝ่าระดับ 29 เหรียญ ณ ขณะนี้ ซึ่งภาพรวมทางด้านอุปทานยังคงดูดี เช่นเดียวกับทางด้านอุปสงค์ก็ยังคงมีการลงทุนตลอด

HGF

- ทองทรงตัวแต่ยังปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

- เจ้าหน้าที่เฟดบางรายสนับสนุนการซื้อพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจ

- คาดทองยังแกว่งตัวแคบรอปัจจัยใหม่

 ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ หลังจากค่าเงินดอลลาร์ซึ่งอ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ก่อน และเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัว แต่โดยรวมแล้วเมื่อวานนี้ราคาทองสามารถปิดตลาดสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่วนราคาโลหะเงินสามารถดีดตัวขึ้นได้ต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีแรงซื้อเข้ามามากในการซื้อขายช่วงค่ำ จนราคาดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 28.0 ดอลลาร์ และยังทรงตัวอยู่ที่บริเวณดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้

 เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐบางรายแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐยังมีสัญญาณชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา แต่กลับมีผลต่อราคาทองค่อนข้างน้อย ส่วนประเด็นในยุโรปโดยรวมแล้วตลาดยังรอความชัดเจนเรื่องผ่อนคลายนโยบายการเงินผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสมาชิกในยุโรปจากธนาคารกลางยุโรป

 ประเด็นต่างๆทั้งจากยุโรปและสหรัฐโดยรวมแล้วยังไม่มีประเด็นใหม่ทั้งในด้านบวกและลบ จึงทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบเพื่อรอปัจจัยใหม่โดยคาดว่าการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของจีนที่อาจนำมาสู่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน อาจเป็นประเด็นบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ต่อไป

 ภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มที่ราคาจะแกว่งตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,620 และ 1,630 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยที่แนวต้านหลัง เป็นระดับแนวต้านที่มีนัยสำคัญในทางเทคนิค จึงยังต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมา การเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะนี้คาดว่าจะเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆเพื่อรอปัจจัยใหม่ ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินซึ่งดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 28ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ จึงมีแนวโน้มที่ราคาโลหะเงินจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 28.5ดอลลาร์ ได้ต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยราคาเปรียบเทียบของราคาโลหะในปัจจุบันเป็นราคาที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับราคาทอง จึงอาจมีแรงขายกลับออกมา โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่บริเวณ 27.6-27.8 และ 27.0-27.2 ดอลลาร์ ตามลำดับ

Gold Future (August)

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบแต่ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,620 และ 1,630 ดอลลาร์ตามลำดับ จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อในช่วงที่ราคาปรับฐานลงในระหว่างวัน โดยมีแนวรับสำหรับเปิดสถานะอยู่ที่บริเวณ 1,600-1,605 และ 1,590 ดอลลาร์ ตามลำดับ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,585 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามากหากราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าบริเวณนี้

Silver Future (August)

ราคาโลหะเงินปรับฐานลงในช่วงสั้นๆก่อนที่จะดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 28.0 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ในช่วงค่ำ และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ แต่ด้วยราคาเปรียบเทียบของราคาโลหะเงินที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับราคาทอง จึงอาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา หากถือครองสถานะซื้ออยู่ ควรทยอยปิดสถานะลดความเสี่ยง แล้วรอเปิดสถานะใหม่ในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 27.6-27.8 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 27.5 ดอลลาร์