Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold- ราคาทองคายังเคลื่อนตัวอยู่กรอบแคบๆ ระหว่าง 1,610 – 1,620 เหรียญ โดยมีเคลื่อนตัวในกรอบนี้เมื่อวานตลอด ทั้งวัน เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณความชัดเจนจากทางเฟดและอีซีบี ยังคาดว่าราคาทองคาน่าจะขยับตัวในทิศทาง Sideway ต่อไปเรื่อยๆ จนจบอาทิตย์นี้ นักลงทุนทั่วโลกยังรอความชัดเจนที่จะได้รับสัญญาณจากนายมาริโอ ดรากีในการที่ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางอีซีบี

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เช่นเดิม โดยช้อนซื้อที่ระดับ 1,600 เหรียญและ อาจจะขายที่ระดับ 1,620 เหรียญ โดยมีแนว ต้านสาคัญที่ระดับ 1,630 เหรียญตามลาดับ\

Weekly

ยังให้ถือ Long Position อยู่ที่ประมาณ 20% โดยพยายามซื้อให้ต้นทุนอยู่ที่บริเวณแนวรับ ประมาณ 1,610 เหรียญ ลงไป

Monthly

ถือ Long Position อยู่ที่ประมาณ 25%

Gold Recap

 Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,611 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 24,200 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,950 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,607 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,605 – 1,616 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,614 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-CME Group กล่าวในรายงานความคิดเห็นตลาดว่า ราคาทองคามีการฟื้นตัวจากการปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้เข้าสู่แดนบวกในช่วงกลางตลาด ซึ่งวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่มีการปะทุขึ้นมาใหม่ทาให้สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วงบ่าย และตลอดจนการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่เป็นปัจจัยหลักให้ราคาทองคาปรับตัวลดลงในวันก่อน อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวขึ้นมาในความรู้สึกทางเศรษฐศาสตร์มหัพภาคและการรีบาวน์ในตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้

-เทรดเดอร์ต่างๆ ได้กล่าวว่า ตลาดทองคายังคงรู้สึกกังวลกับเฟดและอีซีบีว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นให้มีการเข้าซื้อในทองคา หรือถ้าจะมีการระงับการดาเนินการเพิ่มเติมก็อาจเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเทขายในทองคา โดยปริมาณการซื้อขายในโกลด์ฟิวเจอร์สเบาบางเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยความผันผวนเกิดขึ้นในสัญญา call options ที่แกว่งตัวใกล้ระดับ 14 เกือบระดับต่าสุดในรอบ 1 ปี อย่างไรก็ตาม ราคาทองคาดูจะมีการฟื้นตัวขึ้นหากความผันผวนกลับมาใกล้ระดับปกติที่ราว 20

-เมื่อคืนนี้ช่วงประมาณ 20.30 น. มีการประกาศจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ยืนยันอันดับความน่าเชื่อระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศและในประเทศ (IDR) ของเยอรมนีที่ระดับ AAA โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ ซึ่งฟิทช์ระบุว่า การคงอันดับในครั้งนี้สะท้อนถึงเครดิตและเศรษฐกิจของเยอรมนีที่แข็งแกร่งมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าขณะที่วิกฤตหนี้ยูโรโซนก็ทวีความรุนแรงขึ้น จีดีพีของเยอรมนีก็ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างก่อนหน้านี้

-ปริมาณความต้องการทองคาในอินเดียหยุดชะงักลงล่าสุดแม้จะเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นเทศกาลแล้วก็ตาม สาเหตุหนึ่งมาจากทองคาแท่งภายในประเทศมีราคาสูง และผู้เข้าซื้อในชนบทยังคงอยู่นอกตลาด โดยเป็นการถือเงินสดเอาไว้ในช่วงที่ปริมาณน้าฝนไม่เพียงพอที่ส่งผลต่อรายได้ ซึ่งประชากรราว 60% ในชนบทเป็นสัดส่วนของปริมาณความต้องการในอินเดีย นายอาเจย์ คูมาร์ จากเคเดียร์ คอมโมดิตี้ส์ ระบุว่า ความมีเสน่ห์ในทองคาแท่งในอินเดียอาจกาลังลดลง ตามที่ตลาดผูกติดอยู่ระหว่างข่าวดีและข่าวร้ายในตลาดโลก ซึ่งจะเห็นความผันผวนในปริมาณทองคาแท่งที่ลดลงไปถึง 40 – 50% หากเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนที่ผ่านมาที่ความผันผวนเริ่มเกิดขึ้น โดยในเดือนกรกฎาคมปริมาณการซื้อขายสัญญาใน MCX ลดลงไป 30.33%

-ช่วงเวลา 8.30 น. ที่ผ่านมามีการประกาศตัวเลข CPI ของจีน ซึ่งผลที่ออกมาพบว่า จีนมีระดับอัตราเงินเฟ้อในรายปีที่ 1.8% ดีขึ้นจากเดิมที่ระดับ 2.2% ในขณะที่ตัวเลข PPI ออกมาที่ระดับติดลบ 2.9% แย่ลงจากเดิมที่ระดับติดลบเพียง 2.1% และในเวลา 12.30 น. นักลงทุนจะจับตาการประกาศตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีน รวมไปถึง Fixed Asset Investment ซึ่งจะเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่อย่างไร หลังจากที่เศรษฐกิจจีนมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงมาเป็นเวลา 6 ไตรมาสที่ผ่านมา

-สาหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ได้แก่ Nonfarm productivity ของสหรัฐประจาเดือนกรกฎาคมออกมาเพิ่มขึ้น 1.6% จากระดับคาดการณ์ 1.5% และ Preliminary Unit labour cost เพิ่มขึ้น 1.7% มากกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 0.5% และระดับก่อนหน้าที่ 1.3%

HGF

- ทองแกว่งตัวแคบก่อนปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4

- วันนี้คาดจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว

- คาดทองยังแกว่งตัวแคบระหว่าง 1,600-1,620 ดอลลาร์

 ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แต่การเคลื่อนไหวโดยรวมมีการแกว่งตัวแคบลง และเป็นการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับและแนวต้านในทางเทคนิค เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่ทั้งด้านบวกและลบ ส่วนราคาโลหะเงินซึ่งหลังจากในการซื้อขายช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับราคาทองคำเมื่อวานนี้จึงเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาในการซื้อขายช่วงค่ำ จนราคาปิดย่อตัวลงจากระดับปิดของวันอังคาร แต่ภาพการเคลื่อนไหวโดยรวมยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก

 นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดหวังเรื่องมาตรการช่วยเหลือประเทศสมาชิกในยุโรป จึงทำให้เงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวทรงตัว แต่ก็เริ่มใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดตลาดเมื่อคืนนี้ค่อนข้างไร้ทิศทาง รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยุโรปที่เริ่มดีดตัวขึ้น สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในสถานการณ์ของยุโรป ที่อาจมีประเด็นลบกลับออกมากดดันการลงทุน

 ประเด็นจากสหรัฐและยุโรปโดยรวมแล้วยังไม่มีประเด็นใหม่ โดยคาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจไปยังเรื่องรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจากจีน ซึ่งในวันนี้จะมีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ผลผลิตอุตสาหกรรม

 โดยตลาดประเมินว่าตัวเลขส่วนใหญ่มีแนวโน้มชะลอตัว และอาจเป็นประเด็นลบกดดันการเคลื่อนไหวของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นๆ แต่ด้วยรายงานในลักษณะดังกล่าวจะสนับสนุนมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลและธนาคารกลางของจีนต่อไป

 ภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวต้านหลักอยู่ที่บริเวณ 1,630 ดอลลาร์ หากผ่านขึ้นไปได้ ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคก็จะกลับมีทิศทางการฟื้นตัวที่จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น ส่วนการเคลื่อนไหวในระหว่างวัน คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,600-1,620 ดอลลาร์ ต่อไป และสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินซึ่งวานนี้มีการปรับฐานลงมายังแนวรับบริเวณ 27.6-27.8 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวของราคาโลหะเงินยังไม่แตกต่างไปจากช่วงต้นสัปดาห์มากนัก และคาดว่าราคาโลหะเงินจะมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ และสามารถ

Gold Future (August)

ราคาทองคำปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,600-1,605 ดอลลาร์ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับในการซื้อขายช่วงค่ำ และคาดว่าการแกว่งตัวของราคาทองจะยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอปัจจัยใหม่ ดังนั้นการเก็งกำไรระยะสั้นควรรอเปิดสถานะซื้อที่แนวรับบริเวณ 1,600 และ 1,590 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,585 ดอลลาร์ และปิดสถานะลดความเสี่ยงในช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,620 และ 1,630 ดอลลาร์ตามลำดับ

Silver Future (August)

ราคาโลหะเงินอ่อนตัวลงมายังแนวรับบริเวณ 27.6-27.8 ดอลลาร์ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง โดยคาดว่าราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ แต่อาจมีการแกว่งตัวในกรอบแคบลง การเก็งกำไรระยะสั้นสามารถรอเปิดสถานะซื้อที่แนวรับบริเวณ 27.6-27.8 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 27.5 ดอลลาร์