MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold- ราคาทองคาในช่วงเช้ามีการซื้อขายในกรอบแคบๆเช่นเดิม หลังจากตัวเลข Retail Sales ออกมาดีขึ้นอยู่ที่ 0.8% จาก เดือนที่แล้วอยู่ที่ – 0.7% และดีกว่าคาดการณ์ที่ว่าจะออกมา 0.3% ทาให้ราคาทองคามีแรงเทขายอย่างหนัก หลังจากเกิด Figures Stop Selling เมื่อราคาทองคาหลุด 1,600 เหรียญ ทาให้ราคาทองคาลงอย่างรวดเร็วในช่วงประมาณ 2 ทุ่มบ้านเรา ลงมาทาจุดต่าสุดที่ระดับ 1,591 เหรียญ และดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังจากราคาทองคาปรับตัวลง ทาให้การซื้อขาย ส่วนมากอยู่บริเวณ 1,600 เหรียญ และปิดตลาด Comex ที่ระดับ 1,602.4 เหรียญ ส่วนราคาทองคาในเช้าวันนี้อยู่ที่ 1,601 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคายังเคลื่อนตัวตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาเพื่อการเก็งกาไร สู่ Figures ด้วย Stop Selling ลงมาบริเวณ 1,598 เหรียญ โดยภาพรวมทองคาสามารถมี Technical Rebound ได้อย่างรวดเร็วและ กลับมายืนอยู่เหนือบริเวณ 1,600 เหรียญได้ ซึ่งเป็นแนวรับที่มีความแข็งแรงค่อนข้างมาก ยังมองราคาทองคาน่าจะเคลื่อนไหว ในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,600 – 1,620 เหรียญเช่นเดิม ในวันนี้จะมีตัวเลข Core CPI คาดว่าคงเดิม CPI, Capacity Utilization Rate และ Industrial Production คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ในขณะที่ Empire State Manufacturing Index และ TIC Long-Term Purchases คาดว่าจะออกมาแย่ลง ซึ่งสรุปโดยภาพรวมว่าราคาทองคายังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway
สรุป – ราคาทองคายังเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway อีก 2 – 3 สัปดาห์ สาหรับ Long Term และ Medium Term ยังมอง เป็นลักษณะทิศทางขาขึ้น
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,600 – 1,615 เหรียญ เก็งกาไรในทิศทางขาขึ้น บริเวณนี้เป็นจุดที่ดี สาหรับนักลงทุนที่ติด Short Position ที่จะปิด Short Position
Weekly
เป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม ถือครองพอร์ท 30% เพื่อ เก็งกาไรในระยะสั้น ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคา อ่อนตัวเท่านั้น
Monthly
เมื่อวานที่ราคาปรับตกเข้าซื้อเพิ่มพอร์ทเป็น 30%
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,612 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 24,130 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,950 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,611 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,592 – 1,611 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,601 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-เมื่อคืนนี้ราคาทองคาปรับตัวลดลงไปมากถึง 1% ต่ากว่าระดับ 1,600 เหรียญ หลังจากการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้บดบังความคาดหวังสาหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากเฟด ทั้งนี้ สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 10.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,602.4 เหรียญ/ออนซ์ โดยมีการซื้อขายอยู่ในกรอบ 1,593.6 – 1,618.9 เหรียญ ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 115,000 ล็อต ประมาณ 30% ต่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน
-โฆษกของ CME กล่าวว่า ฟังก์ชั่น Stop Logic ถูกกระตุ้นให้เกิดการใช้งานในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สช่วงเวลา 19.42 น. และนั่นทาให้ตลาดทองคาได้ทาหน้าที่อย่างเหมาะสม และไม่มีการซื้อขายใดที่ถูกยกเลิก โดยฟังก์ชั่น Stop Logic จะเป็นลักษณะของการหยุดการซื้อขายชั่วคราวเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของราคาที่มากเกินไปจากการปรับตกของ stop price orders
-ในขณะนี้นักลงทุนจับตาดูการควบคุมของ Hedge funds และผู้จัดการการเงินรายใหญ่ซึ่งจะแสดงสถานะการลงทุนในทองคาในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้ ผู้จัดการ Hedge fund ที่มีชื่อเสียง นายจอห์น พอลสัน ได้ยกระดับการลงทุนในทองคาในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นในความเชื่อมั่นนักลงทุนว่า ราคาทองคาแท่งจะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอีกในปีนี้
-ยอดค้าปลีกสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับการเพิ่มขึ้นที่เร็วที่สุดในรอบครึ่งปี
-การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรป จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของเยอรมนีขยายตัว 0.3% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.2% อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ออกมายังต่ากว่าไตรมาสก่อนที่ระดับ 0.5% ในขณะที่จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของฝรั่งเศสออกมาที่ระดับ 0% มากกว่าการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะหดตัวลง 0.1% และยังมีการประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีประจาเดือนสิงหาคมออกมาน่าผิดหวังอย่างมากที่ระดับติดลบ 25.5 ลดลงไปมากจากเดิมที่ติดลบ 19.6 เช่นเดียวกันกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปที่ออกมาติดลบ 0.6% ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะติดลบเพียง 0.5%
-ข้อมูลจากธนาคารกลางสเปนระบุเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารต่างๆ ของสเปนได้กู้ยืมเงินจากอีซีบีในเดือนกรกฎาคมแตะระดับ 4.02 แสนล้านยูโร ส่งผลให้สเปนยังคงอยู่ห่างไกลจากการกลับเข้าสู่ตลาดทุนและเพิ่มแรงกดดันไม่ให้สเปนหลีกเลี่ยงจากการรับความช่วยเหลือทางการเงินได้ โดยสเปนมีการกู้ยืมเพิ่มขึ้น 10% จากเดือนมิถุนายนที่กู้ยืมไว้ 3.65 แสนล้านยูโร
HGF
- ทองปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2
- ยอดค้าปลีกสหรัฐออกมาดีกว่าคาด
- คาดราคาทองยังมีแนวโน้มปรับฐาน
ราคาทองเคลื่อนไหวทรงตัวในการซื้อขายช่วงกลางวัน ก่อนที่ในช่วงเย็นจะเริ่มมีแรงขายกลับออกมา จนราคาปรับฐานลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับจิตวิทยาที่บริเวณ 1,600ดอลลาร์ และปิดตลาดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากสัปดาห์ทีผ่านมาราคาทองปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน ส่วนราคาโลหะเงินก็มีแรงขายกลับออกมาเช่นเดียวกันแต่ยังสามารถเคลื่อนไหวทรงตัวเหนือแนวรับของวันที่บริเวณ 27.6 ดอลลาร์ ได้
นักลงทุนเริ่มลดระดับการคาดการณ์เรื่องการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางของสหรัฐลง ภายหลังกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้รายงานตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับรายงานดัชนีราคาด้านผู้ผลิตของสหรัฐในเดือนกรกฎาคม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เช่นกัน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรป โดยส่วนใหญ่ยังคงมีสัญญาณชะลอตัว และเป็นปัจจัยลบกดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ส่วนเงินดอลลาร์ของสหรัฐซึ่งเคลื่อนไหวทรงตัวติดต่อกันหลายวัน หากค่าเงินเริ่มกลับแข็งค่าขึ้นก็จะเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและราคาโลหะเงินให้ปรับฐานต่อไป
ราคาทองยังมีแนวโน้มว่าจะปรับฐานลงต่อ การถือครองทองคำแท่งยังสามารถใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าบริหารความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองปรับฐาน หากมีสถานะขายไว้ตั้งแต่ราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,630 ดอลลาร์ ยังสามารถถือครองสถานะต่อ หรือในระหว่างวันหากราคาดีดตัวขึ้นแล้วไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ก็สามารถใช้สถานะขายป้องกันความเสี่ยงได้เช่นเดียวกัน
ในระหว่างวันหากว่าราคาทองคำดีดตัวขึ้น คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ จนทำให้ราคาปรับฐานลงต่อ โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่ 1,590 และ 1,580 ดอลลาร์ ตามลำดับ ส่วนโลหะเงินแม้ว่ายังสามารถเคลื่อนไหวเหนือแนวรับบริเวณ 27.6 ดอลลาร์ ได้ แต่คงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา และหากราคาปรับฐานลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับบริเวณนี้ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามากจนทำให้ราคาจะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 27.0-27.2 ดอลลาร์ ต่อไป
Gold Future (August)
ในระหว่างวันหากราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ สามารถเลือกเปิดสถานะขายเก็งกำไรการปรับฐาน ส่วนการเก็งกำไรฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะในช่วงท่าราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,585-1,590 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ1,580 ดอลลาร์
Silver Future (August)
ราคาโลหะเงินอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 27.6ดอลลาร์ และยังเคลื่อนไหวทรงตัวที่บริเวณดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ การเก็งกำไรฝั่งซื้อควรปิดสถานะออกไปก่อนหากราคากลับลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าจุดปิดสถานะตัดขาดทุนที่บริเวณ 27.5 ดอลลาร์และในระหว่างวันหากราคาดีดตัวกลับแล้วไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 28.1-28.2 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ก็จะเป็นจุดปิดสถานะซื้อเพื่อลดความเสี่ยง และอาจเลือกเปิดสถานะขายเก็งกำไรต่อไป