Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2555 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2555 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

 

Gold – ราคาทองคามีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบๆ ตลอดวันทาการของเมื่อวานจนปิดตลาด COMEX โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,635 – 1,642 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,640.5 เหรียญ โดยที่ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures เมื่อวานลดลงจากวันก่อนอย่างมากกว่า ครึ่งหนึ่งโดยภาพรวมทั้งวันมีปริมาณการซื้อขายประมาณ 22,720 คู่สัญญา โดยเป็นขนาดใหญ่ 6,395 คู่สัญญา ขนาดเล็ก 16,230 คู่สัญญา ซึ่งสรุปได้ว่า การซื้อขายในขนาดเล็กมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 2.5 เท่าของขนาดใหญ่ จากเดิมที่ประมาณ 2 เท่า ก็หมายความว่า นักลงทุนให้ความสนใจกับการซื้อสัญญาขนาดเล็กมากขึ้น โดยที่เมื่อวานไม่มีข่าวเศรษฐกิจที่เป็นเนื้อข่าวที่สาคัญ แต่หลังจากปิดตลาด COMEX ไปราคาทองคาและค่าเงินยูโรดีดขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุระดับ 1,643 เหรียญขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งเศษๆ จากการที่เล่นข่าว ความคาดหวังว่า FOMC จะประชุมในกลางเดือนหน้าอาจมีการใช้มาตรการ QE3 ซึ่งยังเป็นเพียงการคาดหวัง ทั้งนี้กองทุน SPDR ก็เข้าทาการ ซื้อทองเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3 ตัน คงที่ระดับ 1281.98 ตัน โดยภาพรวมหลักก็ยังเป็นลักษณะของการเคลื่อนตัวไปในแนวโน้มขาขึ้นของ ทองคาอย่างชัดเจน ในเชิงเทคนิค ราคาทองคาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวอย่างชัดเจนแล้ว โดยที่ราคาทองคา สามารถยืนอยู่เหนือทุกเส้นค่าเฉลี่ย และภาพรวมของเส้นค่าเฉลี่ยต่ างๆ เริ่มเรียงตัวและตัดขึ้นในลักษณะ Golden Cross จึงคาดว่า ราคา ทองคาเป็นทิศทางขาขึ้นสักระยะหนึ่งหลังจากพักตัว 1 – 2 เดือน เป้าหมายหลักถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,700 เหรียญ จึงแนะนาให้นักลงทุนปิด สถานะ Short position และเปิด Long position อย่างเดียวเท่านั้น Gold Futures series Q จะหมดอายุในอีก 6 วัน จึงแนะนาให้นักลงทุนทยอยปิดสถานะเพื่อทากาไรหรืออาจจะปรับเปลี่ยนการถือครอง สถานะ (roll over) ไปสู่ series V ซึ่งเป็น series ถัดไป โดยไม่แนะนาให้ซื้อเพิ่มใน series Q

สรุปได้ว่า ยังมองทองคาเป็นทิศทางขาขึ้น ให้เก็งกาไรในทิศทางขาขึ้นเท่านั้น

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งกาไรใน ทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับรายวันที่ร ะดับ 1,640 เหรียญ และมีแนวต้ า นถัดไปที่ ระดับ 1,670 เหรียญ ค่าเงินบาทเองแข็งค่าขึ้นอย่างมากในเช้าวันนี้กว่า 15 สตางค์/ดอลลาร์ เช้านี้ตกลงมาที่ 31 .26 บาท / ดอลลาร์ ซึ่งเฉพาะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นก็จะมีส่วนกดดัน ราคาทองคาประมาณร้อยละ 20 บาท/บาททองคาทีเดียว

Weekly

เป็นลักษณะซื้อสะสม เพิ่ม Portfolio มาที่ ระดับ 50%

Monthly

เป็นการซื้อสะสม เพิ่ม Portfolio มาที่ 50% เช่นเดียวกัน

Gold Recap

Morning Recap

เป็นการซื้อสะสม เพิ่ม Portfolio มาที่ 50% เช่นเดียวกัน

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,642 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,637 – 1,643 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,641 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อคืนนี้ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1,650 เหรียญได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ฝ่ากรอบการเคลื่อนไหว 1,600 – 1,625 เหรียญได้ ไปทาจุดสูงสุดที่ระดับ 1,658.20 เหรียญ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการรายงานผลการประชุมของ FOMC เพิ่มความคาดหวังให้กับนักลงทุนในทองคามากขึ้นว่า อาจมีการใช้มาตรการ QE3 ในเร็วๆ นี้ รวมไปถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐออกมาต่ากว่าที่คาด ซึ่งก่อนหน้าการรายงานผลการประชุม FOMC สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 2.4 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,640.5 เหรียญ/ออนซ์ ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 130,000 ล็อต ต่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน และ 250 วัน

-แรงขับเคลื่อนหลักของราคาทองคาในระยะ 2 วันมานี้มาจากการรายงานของสื่อเยอรมนีที่ระบุว่า อีซีบีมีแนวโน้มที่จะทาการกาหนดเป้าหมายของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนและอิตาลี ซึ่งในทางโต้ตอบกลับ อีซีบีระบุว่า การรายงานดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบใน “การตัดสินใจในสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น”

-ตลาดยุโรปจับตาการประชุมที่ประธานยูโรกรุ๊ป นายฌอง คล็อง จุงเกอร์เข้าเยือนกรีซเมื่อวานนี้ เช่นเดียวกันกับการประชุมในวันนี้ระหว่างนางอังเกลา แมร์เคล และนายฟรังซัวร์ ออลลองด์ในเยอรมนี โดยนายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซระบุว่ากรีซต้องการเวลามากขึ้นในการปรับลดค่าใช้จ่ายและเดินหน้าปฏิรูปตามเงื่อนไขของการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ สาหรับการประชุมระหว่างนายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปและนายแอนโทนิส ซามาราสเมื่อวานนี้ นายจุงเกอร์ยังคงให้ความหวังแก่กรีซในเรื่องเวลาเพิ่มเติม เพื่อทาให้กรีซผ่านมาตรการรัดเข็มขัดไปให้ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประเมินของกลุ่มทรอยก้า ที่ประกอบด้วยอียูและไอเอ็มเอฟ แต่มีการเตือนกรีซว่าเป็นโอกาสสุดท้ายในการที่จะหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย

-รายงานการประชุมกาหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ระบุว่า สมาชิกจานวนมากระบุว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจไม่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งอย่างมากและอย่างต่อเนื่องของอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การผ่อนคลายเพิ่มเติมอาจจะช่วยหนุนให้ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับในระหว่างช่วงการประชุมบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจตกต่าลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด

-นายสตีฟ ไลส์แมน นักข่าวเศรษฐกิจอาวุโสจากสานักข่าว CNBC กล่าวว่า ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจมีการยกเว้นสัญญาที่ได้ให้ไว้ว่าจะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่าจากปี 2014 – 2015 ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน ทั้งนี้ดูเหมือนว่ามาตรการ QE จะอยู่ในแผนการใช้งานเพื่อการปรับปรุงพัฒนาเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนก็คือเมื่อไหร่ที่จะเกิดการใช้มาตรการดังกล่าวขึ้น โดยอาจมีการใช้ QE3 ในการประชุม FOMC เดือนหน้าก็เป็นได้ และดูเหมือนว่าเหล่าผู้กาหนดนโยบายก็เข้าใกล้มาตรการนี้มากขึ้น

-นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะแสดงสุนทรพจน์ในสัปดาห์หน้าในการประชุมสัมมนาทางเศรษฐกิจประจาปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณแก่นักลงทุนถึงเจตนารมณ์ด้านนโยบายของเฟด

HGF

- ทองดีดกลับหลังทราบรายงานการประชุมเฟด

- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 3.02 ตัน

- คาดทองยังไปต่อระยะสั้นระวังแรงขายทำกำไร

 ราคาทองคำและราคาโลหะเงินแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบในการซื้อขายช่วงกลางวันโดยมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาหลังจากราคาทองดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,640 ดอลลาร์ จนราคาเริ่มปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,630 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับภายหลังมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งหลังสุด ที่มีประเด็นที่นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสที่จะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐเดือนกันยายน

 ในรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมที่ผ่านมาระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ นอกจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐจะออกมาดีขึ้นมาก ดังนั้นนักลงทุนจึงรอติดตามว่าในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่เริ่มออกมาดีขึ้นนั้น จะเพียงพอสำหรับการปรับมุมมองของประธานธนาคารกลางสหรัฐซึ่งเคยกล่าวว่ายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินหรือไม่

 ราคาทองมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นต่อไป เนื่องจากมีประเด็นสำหรับเก็งกำไรทั้งจากกรณีของการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ และการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือยุโรป ซึ่งประเด็นต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนไปจนถึงกลางเดือน โดยในระหว่างทางการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 31 สิงหาคม นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นหนึ่งที่คาดว่าตลาดจะนำมาใช้เก็งกำไรเรื่องการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ดังนั้นหากราคาทองปรับฐานลง จึงเป็นโอกาสในการกลับเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในประเด็นต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อไป

 ภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ แต่คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 1,660 และ 1,670 ดอลลาร์ ตามลำดับโดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรในระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,635-1,640 ดอลลาร์ ส่วนราคาโลหะเงินก็มีแนวโน้มที่จะปรับฐานจากแรงขายทำกำไรเช่นเดียวกัน โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 29.4-29.5ดอลลาร์ และมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 30.2 และ 30.5 ดอลลาร์ ตามลำดับ

Gold Future (August)

ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,630 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับในการซื้อขายช่วงดึกที่ผ่านมา ภาพรวมของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นจากการเก็งกำไรในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากหลายประเทศ ในระยะสั้นด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นมามากจึงอาจมีแรงขายกลับออกมา โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่ 1,665-1,670และ 1,680 ดอลลาร์ ตามลำดับ หากว่าราคาทองกลับปรับฐานลงมายังแนวรับบริเวณ 1,640-1,645 ดอลลาร์ ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อไป และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,630-1,635 ดอลลาร์

Silver Future (August)

ราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 30.0-30.2 ดอลลาร์ แต่ด้วยราคาที่ดีดตัวขึ้นมามาก คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา การเก็งกำไรระยะสั้นอาจรอเปิดสถานะขายเก็งกำไรการปรับฐานในช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 30.0-30.2 ดอลลาร์ แต่การเคลื่อนไหวโดยรวมยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวต่อ ดังนั้นการเก็งกำไรฝั่งขายจึงเป็นการเก็งกำไรในช่วงสั้น ส่วนการเก็งกำไรฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับที่ 29.3-29.5 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 28.8 ดอลลาร์