MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ภาพรวมราคาทองคาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นหลังจากที่ทุกฝ่ายมีความคาดหวังว่าน่าจะมี QE3 และการที่ ราคาทองคาสามารถทะลุแนวต้านสาคัญที่ระดับ 1,640 เหรียญได้ ถือว่ามีนัยสาคัญในเชิงเทคนิคอย่างมาก ทาง MTS GOLD ยังวิเคราะห์ว่าราคาทองคายังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นสูงอยู่ แต่ให้ระวังการเทขายทากาไรที่ บริเวณ 1,675 เหรียญ ยังคาดว่าราคาทองคามีโอกาสที่จะทดสอบระดับ 1,700 เหรียญได้ในเร็วๆ นี้ แต่อาจจะ โดนแรงเทขายทากาไรเป็นช่วงๆ โดยภาพหลักนั้นก็ยังแนะนาให้เข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายทากาไร
Gold Futures series Q จะหมดอายุในอีก 4 วัน จึงแนะนาให้นักลงทุนทยอยปิดสถานะเพื่อทา กาไรหรืออาจจะ ปรับเปลี่ยนการถือครองสถานะ (roll over) ไปสู่ series V ซึ่งเป็น series ถัดไป โดยไม่แนะนาให้ซื้อเพิ่มใน series Q
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในทิศทางขาขึ้นในกรอบ 1,660 – 1,680 เหรียญ ยังคิดว่าน่าจะ เกิดแรงเทขายทากาไรในวันนี
Weekly
แนะนาให้ขายทากาไร ลดพอร์ทลง ถือครอง พอร์ท 10% และซื้อเข้าเมื่อราคาลงมาแนวรับ คาดว่าวันนี้ไม่น่าจะเคลื่อนไหวมากนักเนื่องจาก ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญ
Monthly
แนะนาให้ขายทากาไร ลดพอร์ทลง เหลือ 10% เช่นเดียวกัน
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,666 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Q12 เปิดที่ 24,690 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,500 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,668 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,663 – 1,672 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,674 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคาเมื่อคืนวันศุกร์หยุดพักการเคลื่อนไหวชั่วครู่หลังจากที่มีการปรับตัวสูงขึ้น 3.4% ตลอดทั้งสัปดาห์ โดยเป็นสัปดาห์ที่ราคาทองคามีการปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม โดยเมื่อคืนวันศุกร์สัญญาทองคาส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้นเพียง 10 เซนต์ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,672.9 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 35% ต่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน
-นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีย้าว่า เยอรมนีจะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลกรีซในการแก้วิกฤตหนี้สินอย่าง "เป็นขั้นเป็นตอน" พร้อมเรียกร้องให้กรีซปฏิบัติตามพันธสัญญาในการปฏิรูปเศรษฐกิจ ในขณะที่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส แนะนานายกรัฐมนตรีแอนโทนีส ซามาราส ของกรีซว่า รัฐบาลกรีฐแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้สหภาพยุโรป (อียู) สามารถทางานในส่วนของตนเองเพื่อนาภูมิภาคผ่านพ้นจากวิกฤติ อย่างไรก็ตาม กรีซระบุว่า กรีซต้องการขอเวลามากกว่าความช่วยเหลือ
-ดอยซ์ แบงก์ กล่าวในรายงานว่า กลุ่มโลหะมีค่าดูเหมือนจะขึ้นไปแตะระดับ convincing inflection point หลังจากการรายงานผลการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดที่มีการระบุว่า อาจมีการใช้มาตรการ QE3 ในเร็วๆ นี้ หากเศรษฐกิจมีสัญญาณไม่ฟื้นตัว นอกจากนี้ดอยซ์ แบงก์ยังได้คงระดับการคาดการณ์ราคาทองคาในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ไว้ที่ 1,700 เหรียญ/ออนซ์ และอาจเห็นระดับ 1,900 เหรียญในไตรมาสที่ 4 และ 2,000 เหรียญในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ก่อนที่จะขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 2,200 เหรียญในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า
-ผู้สังเกตการณ์ตลาดหลายรายเกิดความกังวลว่า การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคาก่อนหน้านี้อาจถูกบดบังก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันเก ประธานเฟดที่แจ็คสัน โฮล ในปลายสัปดาห์นี้ รวมไปถึงการประชุม FOMC ประจาเดือนกันยายน
-ในงาน Indian Gold Convention ปี 2012 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในกรุงไฮเดอราบัดเมื่อวันศุกร์ ประธานสมาคมค้าทองคาของอินเดียกล่าวว่า ในช่วงเวลานี้เป็นหนึ่งในความท้าทายทางภาคส่วนของทองคาแท่งของประเทศในประวัตศาสตร์ก็ว่าได้ โดยปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อโลกเกิดวิกฤต นายวิลเลี่ยม บาร์คไชร์ ประธานร่วม HKMEx กล่าวในช่วงงาน International Gold Convention 2012 ว่า ปริมาณการซื้อขายสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาดฮ่องกงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพุ่งทะลุ 10,000 คู่สัญญา/วัน
-อ้างอิงจากผลสารวจของตัวแทนต่างๆ ในงาน Gold Convention 2012 เมื่อวันเสาร์ระบุว่า ราคาทองคาจะขึ้นแตะระดับ 1,701 – 1,800 เหรียญในช่วงสิ้นปีนี้ ในขณะที่จะเห็นราคา Silver แตะระดับ 30.10 – 35 เหรียญ/ออนซ์ในช่วงสิ้นปี
-นายฟิลลิป จาก GFMS ระบุว่า จะเห็นราคาทองคาที่ระดับสูงถึง 2,005 เหรียญในช่วงสิ้นปี 2012 และฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงปี 2013 จากมุมมองที่เป็นลบในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
-จีนอาจเข้ามาแทนที่เป็นผู้บริโภคทองคารายใหญ่ของโลกแทนที่อินเดีย จากแรงกดดันทางเศรษฐศาสตร์มหัพภาค ภาวะความแห้งแล้ง และค่าเงินรูปีที่อ่อนค่าลง รวมไปถึงราคาทองคาที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้บดบังความต้องการในทองคาลง
HGF
- ทองปิดบวกสูงสุดในรอบ 5 เดือน
- เบอร์นันเก้ระบุมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- คาดทองยังไปต่อเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ราคาทองคำและราคาโลหะเงินแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบลง โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงที่ราคาโลหะทั้ง 2 ชนิด ปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับระยะสั้นของเมื่อวันศุกร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ โดยราคาโลหะเงินสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปปิดในแดนบวกได้และเป็นการปิดบวกต่อเนื่องติดต่อกัน 5 วัน แต่สำหรับราคาทองคำ ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ ปรับฐานลงเป็นครั้งแรกหลังจากปิดตลาดในแดนบวกได้ต่อเนื่องติดต่อกัน 7 วัน
การกล่าวคำสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐและประธานธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เป็นประเด็นหลักที่อยู่ในความสนใจของตลาด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาประธานธนาคารกลางของสหรัฐได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการกำกับดูแลของสภาคองเกรสว่า มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม จึงมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางของสหรัฐจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนกันยายน
ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับของเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ และยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ หากในระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรกลับออกมายังสามารถซื้อเก็งกำไรจากเรื่องการออกมาตรการผ่อยคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐและยุโรป โดยมีแนวรับของวันสำหรับราคาทองอยู่ที่บริเวณ 1,660-1,665 และ 1,650 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,680 และ 1,700 ดอลลาร์
ราคาโลหะเงินอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับของเมื่อวันศุกร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ และสามารถปิดตลาดในแดนบวกได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้ต่อไป แต่ด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นมามากกว่าราคาทองคำโดยเปรียบเทียบ จึงมีแนวโน้มที่ราคาโลหะเงินจะปรับฐานลงในระหว่างวัน แนวรับสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 30.5 และ 30.0-30.2 ดอลลาร์ ตามลำดับ ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 30.9-31.0 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองและราคาโลหะเงินคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรจากเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากราคาโลหะทั้ง 2 ชนิด ปรับฐานลง ยังเป็นโอกาสในการกลับเข้าซื้อเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าวได้ต่อไป
Gold Future (August)
ราคาทองคำอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับแรกของเมื่อวันศุกร์ที่บริเวณ 1,660ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง การเคลื่อนไหวในวันนี้คาดว่าราคาจะแกว่งตัวแคบลง หากดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,675-1,680 ดอลลาร์ คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา หากถือครองฝั่งซื้ออยู่ควรทยอยปิดสถานะลดความเสี่ยง แล้วรอเปิดสถานะใหม่ช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับ บริเวณ 1,660-1,665และ 1,650-1,655 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,645 ดอลลาร์
Silver Future (August)
คาดว่าราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นต่อ แต่ในระหว่างวันอาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา การเก็งกำไรฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 30.3-30.5 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 30.0 ดอลลาร์