MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 2% หรือกว่า 35 เหรียญ ท่ามกลางการซื้อขายที่แกว่งตัวในคืนวันศุกร์ จากการคาดหมายในเนื้อหาที่นายเบอร์นันเกให้คาปราศรัยที่แจ็คสัน โฮล ว่าน่าจะมีมาตรการ QE3 เนื่องจากตลาดมองว่า นายเบอร์นันเกยังให้ความกังวลและความพร้อมที่จะต้องปรับปรุงมาตรการทางการ เงินเพื่อกระตุ้นภาวะการว่างงานที่ยังอยู่ใน ระดับสูงที่ระดับ 8.3% โดยที่ในวันนี้ตลาดอเมริกาหยุด แต่ MTS Gold เองยังเปิดให้บริการ Gold Online ตามปกติตาม ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ ฉะนั้นในส่วนทิศทางราคาทองคา MTS Gold มองว่า ราคาทองคาเป็นทิศทางขาขึ้น โดยมี เป้าหมายในการขึ้นครั้งนี้ที่ระดับ 1,720 เหรียญ ภายในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยในขณะที่ราคาปรับตัวขึ้นมาเร็ว นักลงทุน ระยะสั้นที่เป็นนักลงทุนรายวันไม่เกิน 1 สัปดาห์แนะนาให้ขายทากาไรบ้าง ช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวโดยจะมีแนวรับแรกที่ ระดับ 1,675 เหรียญ และแนวรับที่สองที่ระดับ 1,670 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคาเป็นแนวโน้มขาขึ้น จึงแนะนาให้ทา กาไรในแนวน้ามทิศทางขาขึ้น นักลงทุนที่ยังมี Short Position แนะนาให้หาจังหวะปิดให้ได้ภายใน 3 วัน ทากาไรบริเวณ แนวรับ 1675 เหรียญ +/- น่าจะเป็นบริเวณที่ปิด Short Position หรือพิจารณา Timeframe ที่เหมาะสม
สรุปได้ว่า แนวโน้มเป็นขาขึ้น ควรถือสถานะ Long Position เท่านั้น นักลงทุนระยะสั้นเท่านั้นถึงจะถือ Short Position แต่ ต้องมี Stop Loss อยู่เสมอ
คำแนะนำการลงทุน
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นใน กรอบ 1,675 – 1,690 เหรียญ คาดว่าราคาน่าจะ มีการแกว่งตัวจากการขายทากาไรในตลาด ให้ ขายบริเวณแนวต้านด้านบน
Weekly
แนะนาให้ขายทากาไร พอร์ทอยู่ที่ 0% และรอ จังหวะเข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับประมาณ 20- 30%
Monthly
รอจังหวะเข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับ อาจทากาไร บ้างเป็นช่วงๆ Portfolio ทาเป็นสถานะ Long Position ประมาณ 30%
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,653 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures V12 เปิดที่ 24,850 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,500 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,660 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,646 – 1,678 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,676 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคาปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วทันทีที่มีการแถลงของนายเบอร์นันเก ก่อนที่จะรีบาวน์กลับมาพุ่งขึ้นถึง 45 เหรียญแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 สัปดาห์ในช่วงต้นเดือนมกราคมเมื่อคืนวันศุกร์ หลังจากตลาดได้พิจารณาคากล่าวของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ว่าคากล่าวต่างๆ ได้สร้างความคาดหวังอย่างมากในเรื่องมาตรการ QE3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยหลังจากที่ราคาทองคามีการซื้อขายอยู่ในกรอบมาเป็นเวลา 4 เดือน ก็ได้มีการฝ่ากรอบขึ้นไปใกล้ระดับ 1,700 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่เห็นล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม และดูเหมือนว่าราคาทองคาจะสามารถทรงตัวเพื่อไปแตะระดับสูงสุดในปีนี้ได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นและมีสัญญาณการเข้าซื้อทางเทคนิค
-ในคาแถลงของนายเบอร์นันเก้ที่การประชุมแจ็คสัน โฮล เขาเปิดเผยว่า มี “ความกังวลอย่างร้ายแรง” ในเรื่องภาวะซบเซาของตลาดแรงงาน และกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เผชิญกับความท้าทายที่น่ากังวลใจ อย่างไรก็ตามเมื่อเฟดได้พิจารณาถึงความไม่แน่นอนและข้อจากัดต่างๆ ของเครื่องมือทางนโยบาย เฟดจะจัดหาการผ่อนปรนมาตรการมากกว่านี้ตามความจาเป็นเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทาให้สภาพตลาดแรงงานพัฒนาขึ้นอย่างยั่งยืนในเรื่องของความมีเสถียรภาพของราคา นอกจากนี้ นายเบอร์นันเก้ยังได้กล่าวอีกว่า ความเสียหายในเรื่องนโยบายที่ไม่เป็นไปตามแบบแผนนั้นสามารถจัดการได้ และเราไม่ควรที่จะปฏิเสธถึงการใช้นโยบายที่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ
-สาหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐประจาเดือนสิงหาคมพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 74.3 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 73.7 ส่วนดัชนี PMI เขตชิคาโกปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 53.0 ในเดือนสิงหาคม จากระดับ 53.7 ในเดือนก่อน ซึ่งร่วงหนักกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 53.2 ในขณะที่ยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐ หรือ Factory Orders ประจาเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 2.8% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.7%
-ความเห็นของนายเบอร์นันเก้มีส่วนสัมพันธ์อย่างยิ่งกับอัตราการว่างงาน ซึ่งจะต้องจับตาดูการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ในคืนวันศุกร์ และการประชุม FOMC ประจาเดือนกันยายนในวันที่ 12 – 13 กันยายน นอกจากนี้วันนี้ตลาดยังคงเฝ้ารอคาแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีที่มีกาหนดการแถลงในกรุงบรัสเซลส์ เวลา 20.30 น. เกี่ยวกับเรื่องการรวมกันทางภาคธนาคารก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของรัฐสภายุโรป โดยคาแถลงของนายดรากีอาจเปิดเผยนัยสาคัญใดๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างนายดรากีกับธนาคารกลางเยอรมนีกาลังเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการคัดค้านแผนการเข้าซื้อพันธบัตร และนอกจากนี้ยังมีข่าวลือที่ว่า ประธานธนาคารกลางเยอรมนีอาจลาออกเนื่องจากความตึงเครียดจากกลุ่มผู้ประท้วง
-อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดในเดือนสิงหาคม ซึ่งลดโอกาสที่อีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอีซีบีวันที่ 6 กันยายนนี้
-ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา OECD ได้เปิดเผยว่า อีซีบีควรดาเนินการมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาวิกฤตยูโรโซน เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ
HGF
- ทองปิดบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
- เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณไม่ชัดเจน แต่กังวลอัตราการว่างงาน
- คาดทองยังไประยะสั้น ระวังแรงขายทำกำไร
ราคาทองแกว่งตัวผันผวนในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยในระหว่างวันราคาดีดตัวขึ้นเข้าไปเคลื่อนไหวเหนือ 1,660 ดอลลาร์ ได้ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่คำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงแรกจะกลับมากดดันให้ราคาทองปรับฐานลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,650 ดอลลาร์ แต่ในคำแถลงช่วงท้ายกลับมาสร้างความมั่นใจเรื่องการออก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อนักลงทุน จึงทำให้ราคาทองดีดตัวกลับขึ้นได้อีกครั้ง
ประธานธนาคารกลางสหรัฐมีมุมมองต่อปัญหาเศรษฐกิจในลักษณะเดียวกับที่เคยกล่าวในครั้งก่อนๆ รวมทั้งยังไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน แต่ในคำแถลงครั้งนี้ได้ระบุถึงความกังวลต่อเรื่องอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้นในการแถลงครั้งนี้แม้จะมีความชัดเจนน้อยกว่าสิ่งที่ระบุในรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งหลังสุด แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนมั่นใจต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วันนี้ตลาดการเงินของสหรัฐจะปิดทำการ การเคลื่อนไหวของราคาทองจึงอาจกลับมาแกว่งตัวแคบลง อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรปซึ่งนักลงทุนคาดหวังความชัดเจนเรื่องมาตรการช่วยเหลือประเทศสมาชิก ประกอบกับในวันศุกร์จะมีรายงานตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐที่จะเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจมากขึ้น ดังนั้นคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรในทองคำจนทำให้ราคาสามารถปรับตัวขึ้นต่อ หากมีการปรับฐานเกิดขึ้น ยังเป็นโอกาสในการกลับเข้าซื้อเก็งกำไร
ราคาทองดีดตัวขึ้นจากแนวรับบริเวณ 1,650 ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ในระหว่างวันหากราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,680 และ 1,670ดอลลาร์ตามลำดับ คาดว่าจะเป็นจุดดีดตัวกลับของราคาทองได้ต่อไป โดยมีแนวต้านในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ส่วนราคาโลหะเงินซึ่งในระหว่างวันมีแรงขายกลับออกมาจนราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 30.0-30.20 ดอลลาร์ และสามารถดีดตัวขึ้นผ่านแนวต้านบริเวณ 31.40 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ จึงมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 32.0 ดอลลาร์ ได้ต่อไป โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 31.30-31.40 และ 31.0 ดอลลาร์ ตามลำดับ
Gold Future (August)
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากแนวรับของเมื่อวันศุกร์ที่บริเวณ 1,645-1,650 ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ แต่ในระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา หากราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,680 ดอลลาร์และ 1,670 ดอลลาร์ตามลำดับ ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อไป โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,660 ดอลลาร์
Silver Future (August)
ราคาโลหะเงินแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงขายกลับออกมา แต่ราคายังสามารถประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณ 30.0-30.20 ดอลลาร์ ได้และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ หากในระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 31.20-31.30 ดอลลาร์ ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อไป โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 30.90-31.0 ดอลลาร์