Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 13 กันยายน 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 13 กันยายน 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – โดยภาพรวมราคาทองค าเมื่อวานมีการแกว่งตัวในช่วงบ่ายสามโมง หลังจากการประกาศของศาลรัฐธรรมนูญ

เยอรมนีในการที่จะอนุมัติกองทุน ESM ให้มีการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบีได้ ท าให้ราคาทองค าในช่วงนั้นพุ่งสูงขึ้นไป

ทดสอบที่ระดับ 1,745 เหรียญโดยประมาณ แต่ก็มีแรงเทขายท าก าไรอย่างหนาแน่น ท าให้ในช่วงตลาด COMEX เองราคา

กลับปรับตัวลดลงมา และหลังจากที่ตัวเลข Import Prices ออกมาดีกว่าระดับเดิมเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.7% และความกังวลใน

เรื่องในการที่ว่าอาจจะไม่มีมาตรการ QE3 จึงท าให้มีแรงเทขายอย่างหนาแน่นลงมาที่ระดับ 1,730 เหรียญ และทดสอบจุด

ต่ าสุดเมื่อวานที่ระดับ 1,725 เหรียญโดยประมาณ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,733.7 เหรียญ สรุปได้ว่า โดย

ภาพรวมราคาทองค ายังเป็นการแกว่งตัวอย่างมาก ยังมีการแกว่งตัวตาม Hedge Funds ต่างๆ แนะน าให้นักลงทุนลดสถานะ

Long Position ปรับพอร์ทให้สมดุลก่อนการแถลงข่าวของเฟด ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 1.15 น. ในคืนนี้ ซึ่งราคา

อาจจะเคลื่อนตัวไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง

คำแนะนำ

Daily

เก็งก าไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,730 -1,740 เหรียญ

Weekly

ลดพอร์ทให้เหลือเพียง 10% รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อขายเมื่อการแถลงข่าวของเฟดออกมา

Monthly

ลดพอร์ทลงเหลือ 10% เช่นเดียวกัน รอค าแถลงข่าวของเฟด

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองค าต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,734 เหรียญ/ออนซ์  Gold Futures V12 เปิดที่ 25,680 บาท

สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 25,350 บาท

Night Recap

ราคาทองค าเปิดตลาดช่วงค่ าในประเทศไทยที่ระดับ 1,742เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,725 – 1,742 เหรียญ

ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,732 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองค าปรับเปลี่ยนทิศทางในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สวนทางกับค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 1.2937 ดอลลาร์/ยูโร โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 1.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,733.7 เหรียญ/ออนซ์ ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาในเชิงบวก ส่งผลให้เทรดเดอร์บางรายท าการ Hedging ใน

สถานะ Long ก่อนการแถลงนโยบายของเฟด โดยราคาทองค ามีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,727.3 – 1,749.5 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่าปกติประมาณ 25% เหนือค่าเฉลี่ย 30 วัน

-สแตนดาร์ด แบงก์ระบุว่า ราคาทองค ามีการฟื้นตัวขึ้นตอบรับผลการตัดสินของศาลเยอรมนีที่อนุมัติกองทุน ESM ซึ่งราคาทองค าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.15 น. เมื่อวานนี้ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีได้ตัดสินว่า รัฐบาลสามารถด าเนินการใช้กองทุน ESM ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือทางการเงินถาวรของยุโรปที่จะมี

ศักยภาพการให้กู้ยืมสูงสุดถึง 5 แสนล้านยูโร แต่อย่างไรก็ตาม กองทุน ESM จะต้องได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภาเสียก่อนหากจะมีการเพิ่มการใช้วงเงินมากกว่า 1.9 แสนล้านยูโรพฤศจิกายน โดยมีสาเหตุ 2 ประการคือ 1) เดือนธันวาคมเป็นเดือนที่มาตรการ Operation Twistจะหมดอายุ และ 2) ในช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นจังหวะแรกหลังการเลือกตั้งปี 2012 ที่เฟดอาจ

ด าเนินการโดยปราศจากการเกี่ยวข้องกับการเมือง

-นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีอนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ในวันนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้กับยุโรป และที่เหนือกว่านั้นคือ เยอรมนีจะแบกรับความรับผิดชอบในฐานะประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปและในฐานะพันธมิตรที่พึ่งพาได้"

-ในขณะที่นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ของอิตาลี ขานรับค าตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนี ที่อนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุน ESM ส่วนการที่ศาลระบุเงื่อนไขว่าควรมีการจ ากัดภาระทางการเงินของเยอรมนีในกองทุนดังกล่าวไว้ที่ 1.9 แสนล้านยูโร (2.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น นายมอนติกล่าวว่า “เงื่อนไขดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกลไกรักษาเสถียรภาพ” ทั้งนี้

อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีของอิตาลีดิ่งลงแตะระดับต่ าสุดนับแต่เดือนมี.ค.ในวันนี้ หลังมีค าตัดสินของศาลเยอรมนี โดยอิตาลีประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ1 ปีได้9 พันล้านยูโร (1.1 หมื่นล้านดอลลาร์) และตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้3 พันล้านยูโร (3.8 พันล้านดอลลาร์)

-CME Group ระบุในรายงานความคิดเห็นตลาดว่า เทรดเดอร์หลายรายได้มองเห็นการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีให้เป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงในสินค้าโภคภัณฑ์ และสนับสนุนราคาทองค าอย่างแข็งแกร่งในช่วงบ่ายวันนี้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงก่อนการแถลงการณ์ของเฟดนั้นก็นับว่าเป็นปัจจัยส าคัญส าหรับตลาดทองค า อย่างไรก็ตาม การที่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาในเชิงบวกส่งผลในเชิงลบต่อราคาทองค าให้ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดตอนแรก