MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – โดยภาพรวมราคาทองคายังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway โดยมีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบระดับ 1,782 เหรียญ โดยประมาณ และยังมีแรงเทขายทากาไรทาให้ราคาปรับตัวลดลงในช่วงปลายตลาด COMEX วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคา ยังเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,770 – 1,780 เหรียญภายวันนี้ โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ คือ ADP Non-Farm Payrolls ถ้าออกมาแย่ตามที่คาด ราคาทองคาก็มีโอกาสที่จะดีดกลับขึ้นไปได้ รวมทั้งติดตาม สถานการณ์ขอความช่วยเหลือของสเปนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
สรุป - โดยภาพรวมราคาทองคายังเป็นทิศทาง Sideway โดยยังคงรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศคืนนี้
คำแนะนำ
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวใน กรอบ 1,770 – 1,780 เหรียญ
Weekly
ยังคงรอดูความชัดเจนของตลาดถือ Long Position ประมาณ 40% รอช้อนซื้อ บริเวณ 1,765 เหรียญลงมา
Monthly
ถือครองพอร์ท Long Position อยู่ที่ ประมาณ 30% รอช้อนซื้อที่ ระดับ 1,760 เหรียญ
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,777 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures V12 เปิดที่ 26,040 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 25,750 – 25,850 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,777 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,781 – 1,770 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,778 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคาขยับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ แต่ดูตลาดจะเป็นภาวะ Consolidation ช่วง 1 วันหลังจากที่ไปทาจุดสูงสุดในปีนี้เมื่อวันก่อน ด้วยการที่ตลาดจีนปิดทาการตลอดสัปดาห์เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติจีน ความกังวลทางเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ยังไม่คืบหน้ามากนัก อีกทั้งเป็นช่วงเวลาก่อนจะมีการประกาศตัวเลขสาคัญของทางสหรัฐ โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 7.7 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,775.6 เหรียญ/ออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ต่าที่สุดในรอบเดือนเนื่องจากตลาดจีนและตลาดอินเดียปิดทาการ
-มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ธนาคารของสเปนจะต้องการเงินราว 7 หมื่นล้านยูโรถึง 1.05 แสนล้านยูโร (1.35 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อใช้ในการเพิ่มทุนและรับมือกับการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่บริษัทโอลิเวอร์ วายแมน ประเมินไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งราคาทองคาจะได้รับแรงสนับสนุนหากสเปนมีการขอความช่วยเหลือทางการเงิน เนื่องจากการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบแบบพิเศษอาจส่งผลให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่า และนาไปสู่ภาวะเงินเฟ้อในอนาคต ซึ่งจะขับเคลื่อนให้นักลงทุนหลีกหนีจากการลงทุนในค่าเงินต่างๆ และหันมาสนใจการลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าอย่างทองคา หลังจากที่มีกระแสคาดการณ์ออกมาว่า สเปนอาจมีการขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบในสุดสัปดาห์นี้ก่อนหน้านี้ นายมาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีของสเปนกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ยังไม่มีการขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสเปนในเร็วๆ นี้
-สแตนดาร์ด แบงก์ ระบุในรายงานประจาไตรมาสว่า ตลาดทองคายังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยการคาดการณ์ราคาเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1,704 เหรียญ ซึ่งลดลง 2% จากที่ได้คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 โดยทางธนาคารเชื่อว่า ทองคาจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสที่ 4 นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แบงก์คาดการณ์ราคาทองคาเฉลี่ยประจาปี 2013 ไว้ที่ 1,825 เหรียญ
-ลอนดอน เบส เทรดเดอร์กล่าวว่า เหตุการณ์หลักประจาสัปดาห์นี้คงหนีไปไม่พ้นการประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls ของสหรัฐ ซึ่งราคาทองคาอาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านสาคัญที่ระดับ 1,800 เหรียญ ในขณะที่นักลงทุนในตลาดต่างก็สับสนว่าราคาทองคาจะสามารถขึ้นทะลุระดับดังกล่าวได้หรือไม่ หรือแม้แต่จะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเดิมเป็นประวัติการณ์ที่ 1,920 เหรียญหรือไม่ แต่หากทองคาสามารถขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 1,800 เหรียญได้ ก็อย่าคาดหวังว่าจะคงอยู่ได้นาน
นอกจากนี้ การประชุมอีซีบีครั้งแรกของเดือนตุลาคมก็จะเป็นเหตุการณ์ที่น่าติดตามเช่นกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากที่อีซีบีมีการเปิดเผยแผนการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างไม่จากัด ซึ่งทางอีซีบีมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของยูโรโซนที่ยังคงอยู่เหนือระดับเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ต่ากว่า 2% และเพื่อเป็นการชักจูงตลาด อีซีบีจะยังคงไม่ลดอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่าอยู่แล้วที่ 0.75% ซึ่งมีการสารวจจากรอยเตอร์สระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์เพียง 14 รายจาก 73 รายที่เชื่อว่า อีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้
-การให้ความสนใจในระดับสูงของสัญญา Call Options ในบริเวณใกล้กับราคาปัจจุบันของตลาดในกองทุน SPDR ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนในทองคาแท่งบางรายมีมุมมองที่ไม่แน่นอนต่อทองคาก่อนการหมดอายุของสัญญา Options ในวันศุกร์ รวมไปถึงการประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls
การลงทุนในทองคาที่มีการวัดโดยปริมาณทองคาที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETFs พบว่า ยังคงมีปริมาณทองคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 130,000 ออนซ์ ซึ่งรวมปริมาณในกองทุน SPDR ด้วย