Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองค ายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่มี Technical Rebound ขึ้นมาได้เล็กน้อยในช่วงเช้า ไปท าจุดสูงสุดได้เพียงประมาณ 1,748 เหรียญ และมีแรงเทขายออกมาหนาแน่น ท าให้ในช่วงต้นตลาด COMEX ราคาหลุดระดับ 1,740 เหรียญลงมา และลงท าไปจุดต่ าสุดบริเวณ 1,729 เหรียญโดยประมาณ จะเห็นได้ถึงความผันผวนในทิศทางขาลงของราคาทองค าอย่างมาก ในเชิงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาในระยะหลังค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ดี โดยภาพรวมเกิดการคิดกันว่า QE3 อาจจะสั้นลงหรือน้อยลงกว่าที่คาด ภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองค าในระยะสั้น ราคาทองค าเข้าสู่แนวโน้มขาลง โดยที่กราฟแนวโน้มในรายชั่วโมงจนถึงราย 8 ชั่วโมง เริ่มเป็นทิศทางขาลงอย่างชัดเจน กราฟรายวันเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวลดลง มาทดสอบที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันอีกครั้ง ซึ่งระดับค่าเฉลี่ย 50 วันของกราฟรายวันอยู่ที่ระดับ 1,720 เหรียญ แนวโน้มในระยะสั้นเป็นขาลง จึงย้ าให้นักลงทุนเห็นความส าคัญในการลดพอร์ทหรือบริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับแนวโน้มของตลาดเพื่อป้องกันความเสี่ยง ราคาทองค าอาจจะมีการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,720 เหรียญได้ จึงแนะน าให้นักลงทุนบริหารพอร์ทการลงทุนให้เหมาะสมและไม่แนะน าให้ซื้อเฉลี่ยขาดทุน โดยนักลงทุนทองค าแท่งเองจ าเป็นที่จะต้องบริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับวงเงินเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเห็นได้จากการแกว่งตัวของราคาทองค าอย่างมากในช่วงนี้ เป็นการเคลื่อนตัวรวดเร็วจนตกหลุดระดับ 1,740 เหรียญลงมา และหลังจากที่ไม่สามารถกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1,750 เหรียญได้เมื่อวาน ท าให้มีแนวโน้มทางเทคนิคกลายเป็นขาลงในระยะสั้นในขณะนี้ โดยแนวต้านส าคัญอยู่ที่ระดับ 1,745 และ 1,760 เหรียญตามล าดับ

คำแนะนำ

Daily

เก็งก าไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,720 –1,740 เหรียญ ยังแนะน าให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงของราคา

Weekly

พิจารณาที่จะลดพอร์ท Portfolio ลงบ้างให้เหมาะสม อาจท า Stop Loss บ้าง เพื่อให้สามารถบริหารพอร์ทได้ ถือครองพอร์ท 40%

Monthly

เป็นช่วงที่ทยอยเข้าซื้อสะสมอีกได้เล็กน้อยประมาณ 10% ถือครองพอร์ท 50%

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองค าต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,743 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures V12 เปิดที่ 25,830 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 25,350 - 25,450 บาท

Night Recap

ราคาทองค าเปิดตลาดช่วงค่ าในประเทศไทยที่ระดับ 1,742เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,728 – 1,744 เหรียญก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,734 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองค าปรับตัวลดลง 1% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงในรอบวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจยอดค้าปลีกของสหรัฐประจ าเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนสิงหาคม และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% สะท้อนว่าผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจุดประกายความหวังว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นอาจช่วยให้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัวได้ดีกว่าที่มีการประเมินกันไว้ โดยตัวเลขทางสหรัฐที่ออกมาดีชี้ให้เห็นว่า การแทรกแซงตลาดของเฟดผ่านมาตรการ QE3 อาจมีระยะเวลาที่สั้นลง และนอกจากนี้การประกาศยอดส่งออกของจีนที่ออกมาขยายตัว 9.9% ในเดือนกันยายน ซึ่งมากกว่าเดือนสิงหาคมที่ขยายตัวเพียง 2.7% และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5% นั้นแสดงให้เห็นว่า จีนอาจไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยตัวเลขจีดีพีของจีนประจ าไตรมาสที่ 3 จะมีการประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ สัญญาทองค าส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 22.1 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,737.6 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ระดับค่าเฉลี่ย 30 วัน

-นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความเสี่ยงของการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของเฟดจะไม่ท าอะไรให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากนักก่อนหน้านี้ ราคาทองค าท าจุดสูงสุดในปีนี้ที่ระดับ  1,795.69  เหรียญ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถฝ่าระดับ 1,800 เหรียญขึ้นไปได้ เนื่องจากยังมีแรงเทขายอยู่ในตลาดเป็นอย่างมาก โดย RSI ลดลงสู่ระดับ  45  เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่ างรวดเร็วจากจุด Overbought ที่อยู่เหนือระดับ  80  ในเดือนกันยายน ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนบางรายอาจเริ่มที่จะเข้าสู่การเก็งก าไร

-นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า ราคาทองค าจะมีการรีบาวน์เนื่องจากความกังวลในวิกฤตหนี้ยูโรโซนและความไม่แน่นอนท่ามกลางภาวะ  “fiscal cliff”  ของสหรัฐในการที่จะตัดลดการใช้จ่ายและเพิ่มภาษี ซึ่งมีก าหนดใช้ในเดือนมกราคมที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมากจนอาจท าให้เฟดมีการพิมพ์ธนบัตรเข้าสู่ระบบได้การฟื้นตัวของราคาทองค าในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายน  – เดือนกันยายนได้กระตุ้นให้กองทุน ETFs มีการถือครองทองค าเพิ่มขึ้นท าจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้เมื่ออ้างอิงถึงข้อมูลจาก CFTC พบว่า Hedge Funds ต่างๆ ก็มีการเพิ่มสถานะการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 14 เดือน

-ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีขึ้นของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ และจ านวนผู้รับสวัสดิการว่างงานลดลงอย่างมากในวันพฤหัสบดี อาจเป็นส่วนที่ลดความส าคัญของแผนการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดได้ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า แผนการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดอาจถูกย่นระยะเวลาให้สั้นลงกว่าที่คาดหากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเพียงพอ

-ปริมาณการถือครองทองค าของกองทุน ETFs ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 74.991 ล้านออนซ์ในวันที่ 14 ตุลาคม หลังจากที่ปรับตัวลดลงในช่วง 2 วันท าการที่ผ่านมา โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ระดับ 75.03 ล้านออนซ์ที่ท าไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

-ในช่วงปลายสัปดาห์วันที่ 18 – 19 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมสุดยอดผู้น าสหภาพยุโรป หรืออียูซัมมิทจะเป็นความสนใจของตลาดอย่างมาก โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่สเปนเพื่อรอคอยการร้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของยูโรโซนได้กล่าวว่า สเปนอาจมีการขอความช่วยเหลือในเดือนหน้า และหากมีการขอความช่วยเหลือจริงก็อาจจะมาควบคู่กับเงินช่วยเหลือของกรีซและไซปรัส

-นายลูอิส เด กินดอส รมว.เศรษฐกิจสเปน กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสปนจะหดตัวลง 0.4% ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับไตรมาส 2 ขณะที่การปรับตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปในไตรมาส 3 โดยทั่วไปย่ าแย่กว่าในไตรมาส 2 นั้น สถานการณ์ในสเปนมีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพ แม้ว่าข้อมูลโดยรวมยังคงอยู่ในเชิงลบ

-สหภาพยุโรป (อียู) ได้เพิ่มมาตรการคว่ าบาตรอิหร่านเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงการประกาศห้ามน าเข้าก๊าซธรรมชาติจากอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร