Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองคาปรับตัวขึ้นมาทรงตัวยืนอยู่เหนือระดับ 1,700 เหรียญ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาดีขึ้นบ้าง โดยราคา ทองคาในตลาด COMEX เมื่อวานมีการ Rebound กลับมาปิดที่ระดับ 1,713เหรียญ หลังจากที่ลงมาทดสอบแนวรับด้านล่าง บริเวณ 1,700 เหรียญ ในเชิงเทคนิค ราคาทองคายังเป็นแนวโน้มขาลงและยังไม่ถือว่าทรงตัวอยู่ ได้แม้ว่าจะทรงตัวอยู่เหนือ ระดับ 1,700 เหรียญได้ จนกว่าราคาจะสามารถทรงตัว ได้มากกว่า 4 วัน ดังนั้น ในระยะสั้นก็ยังมีโอกาสที่ราคาทองคาจะลงไปทดสอบแนว รับด้านล่างที่ระดับ 1,700 เหรียญ โดยมองว่าโอกาสที่ราคาทองคาจะปรับตัวลดลงยังมีมากจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมก่อนการเลื อกตั้ง ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนนี้คงต้องจับตาดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งหากออกมาดีกว่าที่คาดหวัง ในเรื่องของตัวเลขจีดีพี ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นจาก 1.3%เป็น 1.9% อาจกดดันให้ราคาทองคาปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วได้ สรุปได้ว่า ภาพรวม ทางยังเป็นลักษณะของการปรับตัวลดลงในระยะสั้นและระยะกลาง จนกว่าราคาทองคาจะสามารถทรงตัวและขึ้นไปอยู่เหนือ ระดับ 1,725 เหรียญได้

สรุป - ราคาทองคาจะดูว่าหยุดตกได้ต้องดูคืนนี้อีกวันยังไม่แน่ ถ้าคืนนี้ไม่หลุดที่ระดับ 1,710 เหรียญลงมา ก็จะเริ่มเป็นสัญญาณการกลับตัวได้บ้าง

คำแนะนำ

Daily

เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,700 – 1,725 เหรียญ

Weekly

รอช้อนซื้อ ถือครองพอร์ท 40%

Monthly

รอช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ถือครอง พอร์ท 50-60%

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,709 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures V12 เปิดที่ 25,020 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 25,800 - 25,900 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,714 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,712 – 1,717 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,714 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองคามีการรีบาวน์ขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 1,700 เหรียญเมื่อคืนนี้ จากระดับต่าสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ทาไว้เมื่อวันพุธ โดยได้รับแรงกระตุ้นจากการประกาศตัวเลขจีดีพีของ UK และความคาดหมายที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งสัญญาทองคาส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 11.4 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,713 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 20% ต่ากว่าค่าเฉลี่ย 30 วัน

-สานักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กาลังพิจารณาที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในการประชุมวันอังคารหน้า เนื่องจากวิตกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหยุดชะงัก ซึ่งจะส่งผลให้ญี่ปุ่นไม่สามารถหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานได้ โดยการประชุมในวันอังคารที่จะถึงนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเผชิญกับภาวะซบเซาอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะยูโรโซน ขณะที่ความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงระหว่างญี่ปุ่นและจีนได้เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัดเจน นั่นคือการส่งออกและการผลิตที่ร่วงลง

-คาสั่งซื้อใหม่สาหรับสินค้าคงทนที่ผลิตในสหรัฐ หรือ Durable Goods Orders ปรับตัวสูงขึ้น 9.9% ในเดือนกันยายน สู่ระดับ 2.182 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากร่วงหนักสุดในรอบกว่า 3 ปีในเดือนส.ค. นับเป็นหลักฐานว่าเศรษฐกิจสหรัฐกาลังฟื้นตัวขึ้น หากไม่รวมภาคขนส่งที่มีความผันผวน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือ Core Durable Goods Orders ปรับตัวขึ้น 2% ในเดือนกันยายน

-กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ต.ค. ลดลง 23,000ราย มาอยู่ที่ 369,000 ราย สะท้อนว่าตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากที่ข้อมูลผันผวนในช่วงต้นไตรมาส ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 370,000 ราย ขณะที่จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ต.ค. ถูกปรับทบทวนขึ้นเป็น 392,000 ราย จากระดับ388,000 รายในรายงานก่อนหน้านี

-สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีการทาสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% สู่ระดับ 99.5 ในเดือนก.ย. หลังจากร่วงลงในเดือนส.ค. ซึ่งดัชนีการทาสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ย. ซึ่งเป็นมาตรวัดจานวนสัญญาที่จะซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นต์สัญญาแล้ว แต่ยังไม่ได้ปิดการขายนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน เมื่อเทียบรายปี

-เทรดเดอร์กล่าวว่า ผลการประชุม FOMC ในคืนวันพุธที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมากนัก โดยเฟดสรุปผลการประชุมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนใดๆ นั่นก็คือจะมีการเข้าซื้อหลักทรัพย์ MBS ในทุกๆ เดือนเดือนละ 40,000 ล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาทองคาจะสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ แต่การเคลื่อนตัวของราคาอาจหยุดชะงักไม่ให้ไปต่อจากความกังวลก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐในช่วงต้นเดือนหน้า ด้วยเหตุการณ์ของ Fiscal Cliff ที่จะมีการตัดลดการใช้จ่ายแบบอัตโนมัติ รวมทั้งการเพิ่มภาษีในปี 2013 หากสภาครองเกสล้มเหลวในการตกลงเรื่องการลดยอดขาดดุลภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงผู้นาในจีนและความไม่แน่นอนทางยูโรโซนเช่นกัน

-ความสับสนก่อตัวขึ้นอีกครั้งในกรีซเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันหลังจากที่รัฐมนตรีคลังของกรีซได้กล่าวต่อรัฐสภาว่า กรีซได้รับการขยายเวลาในเรื่องการช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งอีซีบีและเยอรมนีมีการปฏิเสธไม่ยอมรับข้อตกลงที่ได้ทาไว้ โดยกรีซถูกกาหนดให้มีการหารือกับกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ที่ประกอบไปด้วยไอเอ็มเอฟ อียู และอีซีบี ซึ่งนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบียืนกรานว่า ยังคงไม่มีการตกลงและการเจรจาใดๆ ว่ามีความคืบหน้าในเรื่องนี้