Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองค ามีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ จากแรงซื้อ Short-covering เข้ามาท าให้ราคาเคลื่อนตัวอยู่บริเวณ 1,675 เหรียญ และสามารถดีดตัวขึ้นไปเหนือระดับ 1,680 เหรียญได้ โดยปิดตลาด COMEX ที่ระดับประมาณ 1,683.2 เหรียญ โดยที่กองทุน SPDR เมื่อวานนี้มีการเทขายออกมาประมาณ 3.9 ตัน ในขณะที่วันศุกร์ไม่ได้มีการซื้อขายใดๆ เมื่อวานโดยภาพรวมทางข่าวเศรษฐกิจวันนี้จะไม่มีตัวเลขใดๆ ในขณะที่ตัวเลขเมื่อวาน  ISM Non-Manufacturing PMI ออกมาแย่ลงกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยภาพรวมช่วงบ่ายค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้เงินยูโรดอลลาร์เองหลุดแนวรับส าคัญที่ระดับ 1.2830ดอลลาร์/ยูโร ลงมา ท าให้ร่วงลงมาบริเวณ 1.2785 ดอลลาร์/ยูโรโดยประมาณ และเป็นตัวกดดันให้ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าขึ้นเมื่อวานเกือบ  5 สตางค์ จากระดับ 30.77 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 30.83 บาท/ดอลลาร์ท าให้โดยภาพรวมทิศทางของเงินดอลลาร์ยังเป็นทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยเงินยูโรดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากประเทศกรีซที่ต้องรอการประชุม ในวันพุธ วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ว่าราคาทองค ายังอยู่ในแนวโน้มขาลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปชนแนวต้านที่ระดับ  1,730 เหรียญแล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ และปรับตัวลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ ซึ่งยังส่งผลท าให้ภาพรวมทิศทางราคาทองค ายังจะต้องปรับตัวต่อเนื่องในระยะยาวก่อนที่จะทะลุแนวต้านกลับขึ้นมาเหนือระดับ  1,730 เหรียญได้ การคาดหวังราคาทองค าในช่วงสิ้นปีจากเดิมที่ระดับ 1,800 เหรียญ อาจจะต้องปรับการคาดการณ์ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญเท่านั้น อย่างไรก็ดีในระยะยาวยังมองว่าเงินดอลลาร์น่าจะอ่อนค่าลง โดยขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ถ้านายโอบามาชนะการเลือกตั้งก็คงจะดีต่อตลาดโดยทั่วไป แต่ตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวลดลงเนื่ องจากการขึ้นภาษี ตลาดทองค าก็จะดีเช่นกันเนื่องจากมีมาตรการ QE3 ในขณะที่ถ้านายรอมนีย์ชนะการเลือกตั้ง ประธานฝ่าย Economics ไม่ค่อยมีความเห็นตรงกันกับนายเบอร์นันเก อาจจะส่งผลให้ไม่ต่ออายุนายเบอร์นันเกในเดือนมกราคมปี 2014 แต่โดยภาพรวมนโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองพรรคดูจะค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งในระยะสั้นถ้านายร อมนีย์มาจะท าให้ระบบการเก็บภาษีเปลี่ยนแปลงซึ่งน่าจะส่งผลลบต่อตลาดทองค า แต่อาจจะดีต่อตลาดหุ้นถ้าไม่ขึ้นภาษี อย่างไรก็ตามในระยะปานกลางผลจาก  Fiscal Cliff จะยังกดดันและเป็นผลบวกต่อราคาทองค าเนื่องจากการขึ้นภาษีและการลดค่าใช้จ่ายในภาครัฐบาลลงเพื่อลดยอด  Trade Deficit ฉะนั้นในระยะยาวน่าจะส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส าหรับราคาทองค าจะมีแนวรับส าคัญถัดไปที่ระดับ 1,670 เหรียญตามที่ได้วิเคราะห์ไปแล้ว แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ  1,690 เหรียญและ 1,700 เหรียญตามล าดับ โดยจะมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางจากการที่ค่อยๆ ขยับขึ้นมา

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งก าไรในกรอบ 1,675 – 1,685 เหรียญ ยังคงแนะน าให้ทยอยขายท า Short Position ที่แนวต้านด้านบนที่ 1,685 เหรียญขึ้นไป

Weekly

ยังแนะน าให้ลดพอร์ทต่อเนื่อง และรอจังหวะช้อนซื้อบริเวณแนวรับส าคัญกลับเข้ามาใหม่ โดยให้ท าการขาย

เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น เป็นการขายเพื่อลดพอร์ท และซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

Monthly

ยังคงหาจังหวะขาย และหาจังหวะซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ถือครองพอร์ทที่ระดับ 30-40% เท่านั้น

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองค าต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,680 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Z12 เปิดที่ 24,750 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,450 - 24,550 บาท

Night Recap

ราคาทองค าเปิดตลาดช่วงค่ าในประเทศไทยที่ระดับ 1,680เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,685 – 1,679 เหรียญ

ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,683 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองค าปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ จากการเข้าซื้อและการท า Short-covering โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ โดยสัญญาทองค าส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 8 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,683.2 เหรียญ/ออนซ์ โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,672.5 – 1,686.2 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขาย

ประมาณ 30% ต่ ากว่าค่าเฉลี่ย 250 วัน

-คอมเมิร์ซแบงก์ กล่าวว่า เมื่อเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ราคาทองค ามีการฟื้นตัวอย่างยากล าบากหลังจากที่ราคาดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์จากผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจุดสนใจ ณ ขณะนี้มาอยู่ที่ท าเนียบขาวที่จะมีการทดสอบความเชื่อมั่นระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันนั่นเอง

-การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ISM non-manufacturing PMI ประจ าเดือนตุลาคมออกมาที่ระดับ 54.2 ต่ ากว่าการคาดการณ์ที่ 54.6

-ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางกว่าปกติในช่วงวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งตลาดการเงินต่างๆ จะจับตาอย่างใกล้ชิด ด้วยการที่นายบารัก โอบามา ดูเหมือนจะมีการสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า ในขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า นายมิตต์ รอมนีย์ ดูจะไม่ชื่นชอบการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมเท่าไรนัก นั่นหมายถึง หากนายโอบามาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นผลบวกต่อราคาทองค า

-นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ทีมของนายรอมนีย์ซึ่งชนะเลิศทางด้านความรับผิดชอบทางการคลังและไม่เชื่อกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดอาจจะไม่เสนอชื่อนายเบน เบอร์นันเก ให้เป็นประธานเฟดในสมัยที่  3 ในปี 2014 ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกตั้งจะมีการบอกนัยส าคัญถึงการที่สหรัฐจะท าอย่างไรกับภาวะ Fiscal Cliff ซึ่งจะมีการตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐบาลมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มภาษีที่จะมีผลในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า

-ทางฝั่งยุโรป รัฐบาลกรีซได้มีการเสนอแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ ซึ่งรัฐบาลกรีซคาดหวังให้แผนผ่านรัฐสภาทั้ง 2 ครั้ง และรัฐมนตรีกรีซรายหนึ่งได้กล่าวต่อส านักข่าว CNBC ว่า การเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในครั้งวนี้จะสิ้นสุดการพูดถึงเรื่องที่กรีซจะออกจากยูโรโซน ในขณะเดียวกันการประท้วงแผนรัดเข็มขัดกรีซก่อตัวรุนแรงขึ้น โดยกลุ่มผู้ประท้วงมีการเริ่มต้นการประท้วง 48 ชั่วโมงในวันนี้ โดยผู้ก าหนดกฎหมายต้องอนุมัติเพื่อรับประกันการช่วยเหลือเพิ่มเติมและหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย ส่งผลให้สกุลเงินยูโรในเช้านี้อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ าสุดในรอบ 8 สัปดาห์จากความกังวลในเรื่องกรีซ

-ปริมาณการถือครองทองค าของกองทุน Gold ETFs อยู่ที่ระดับ 75.074 ล้านออนซ์ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 75.086 ล้านออนซ์ที่ท าไว้เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม

-และนอกจากนี้ในวันพฤหัสบดี จะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 0.75% ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษจะมีการประชุมในวันเดียวกันก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีการประกาศอะไรใหม่ๆออกมา