Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองคาอยู่ในช่วงของการกลั บตัวสูงขึ้น โดยที่เมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้ งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข่าวดีที่เข้าสู่ตลาดทองคาคือ การที่อาจจะเกิดมาตรการแก้ปัญหาเรื่อง Fiscal Cliff และเรื่องของภาวะความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน รวมไปถึงการที่ยังดาเนินใช้ มาตรการ QE3 ในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ หุ้นดาวโจนส์ยังปรับตัวลดลงท่ามกลางความกังวลในภาวะ Fiscal Cliff ซึ่งในทางกลับกัน เป็นผลดีต่อราคาทองคา โดยวันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจน่าจะไม่ได้มีผลอะไรมากจากตัวเลข Consumer Sentiment ในขณะที่ในเชิงเทคนิคนั้น ราคาทองคาเมื่อคืนนี้ปรับตัวสูงขึ้นโดยมีการแกว่งตัวซื้อขายบริเวณ 1,720 เหรียญ ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับสูงขึ้นไปที่ระดับ 1,730 เหรียญ ในช่วงปิดตลาดในช่วงท้าย โดยที่ราคามาพุ่งทะลุ 1,730 เหรียญในช่วงประมาณตี 3 บ้านเรา หลังจากนั้นราคาก็ทรงตัวเหนือระดับ 1,730 เหรียญมาได้ตลอด ณ ขณะนี้ราคาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,734 เหรียญ โดยภาพรวมจะเห็นได้ว่าราคาทองคาเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น หลังจากที่ราคาสามารถทะลุขึ้นมาเหนื อเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ของกราฟรายวันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาขึ้ นมาเหนือยืนระดับ 1,730 เหรียญ ได้อย่างมั่นคง จะทาให้ราคาทองคาจะเข้าสู่ แนวโน้มขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญ โดยที่แนวรับ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,722 เหรียญ ในขณะที่ค่าเงินบาทเองยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเมื่อคืนมาที่ระดับประมาณ 30.69 บาท/ ดอลลาร์ แข็งค่าจากเมื่อวานประมาณ 2 สตางค์ โดยภาพรวมจะเห็นได้ว่าราคาทองคาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น หลังจากที่มีการแกว่งตัวจากการ เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

คำแนะนำ

Daily

เก็งกาไรในกรอบ 1,722 - 1,740 เหรียญ แนะนาให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

Weekly

แนะนาให้ปรับเพิ่มพอร์ทเป็น 50% ทยอย เข้าช้อซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวโดยตลอด

Monthly

เป็นการซื้อสะสม โดยปรับพอร์มมาอยู่ที่ 40% ราคาเป้าหมายในการขายอยู่ที่ 1,750 เหรียญ เป็นเป้าหมายระยะสั้นๆ ในขณะที่แนว Stop Loss จะอยู่ที่บริเวณ 1,700 เหรียญ

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,718 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Z12 เปิดที่ 25,240 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,950 - 25,050 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,717 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,720 – 1,712 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,716 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อวานนี้ราคาทองคาใช้เวลาตลอดทั้งวันโดยไม่มีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด มีการปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการรอความชัดเจนว่าสหรัฐจะทาอย่างไรกับภาวะ Fiscal Cliff ที่เริ่มปรากฏขึ้นลางๆ หลังจากที่ได้รับการยืนยันถึงสถานะของประธานาธิบดี และนอกจากนี้ราคาทองคายังได้รับแรงสนับสนุนจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ทั้งนี้สัญญาทองคาส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 12 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,726 เหรียญ/ทรอยออนซ์

-สาหรับกรีซ นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนีกล่าวว่า กรีซจะต้องรอการช่วยเหลือทางการเงินรอบถัดไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แม้ว่ามาตรการรัดเข็มขัดจะได้รับอนุมัติจากรัฐสภากรีซในสัปดาห์นี้แล้วก็ตาม ซึ่งนายโวล์ฟกังเตือนว่า ดูเหมือนกรีซจะไม่สามารถสรุปข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศในเรื่องการช่วยเหลือทาง credit line ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ นายโมฮัมมัด แอล-อีเรียน CEO ของพิมโก้ ระบุว่า ตัวเลขที่มีการประกาศเมื่อวานนี้ช่างเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายต่อกรีซยิ่งนัก เมื่ออัตราคนว่างงานประจาเดือนสิงหาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 25.4% นับเป็นสถิติใหม่ของกรีซ และยังเป็นสัญญาณเตือนถึงอัตราคนตกงานสาหรับช่วงอายุ 15-24 ปี ที่ระดับ 58% จึงเป็นเหตุผลที่เชื่อได้ว่าในอนาคตรายงานการจ้างงานอาจเป็นเหตุการณ์ที่แย่ลงตามมานั่นเอง

-ภาวะ Fiscal Cliff เป็นการเพิ่มภาษีและตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐบาล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อัตโนมัติในปีหน้า สิ่งนี้เป็นอุปสรรคหลักๆ สิ่งแรกสาหรับรัฐบาลของนายโอบามาในการเจรจาต่อรอง ทั้งนี้ ความเสี่ยงก็คือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่มีการลดค่าใช้จ่ายราว 6.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐออกจากจีดีพีของสหรัฐจะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในท้ายที่สุด จึงทาให้นักลงทุนเริ่มมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างพันธบัตรสหรัฐ สกุลเงินดอลลาร์ และทองคา

-ทางด้านฝั่งยุโรป เมื่อวานนี้มีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีแทบไม่ได้กล่าวสิ่งแปลกใหม่อะไร หรือแม้แต่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยใดๆ โดยสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปสู่ระดับต่าสุดในรอบ 2 เดือนหลังจากที่อีซีบีคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่าเท่าเดิม 0.75% และกล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนแสดงสัญญาณการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยก่อนสิ้นปี แม้จะมีการผ่อนคลายทางการเงินในตลาดก็ตาม

-นายโจโน่ เรมิงตัน ฮ็อบส์ นักวิเคราะห์จากฟาสต์มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า โดยภาพรวมเขารู้สึกว่า ความเห็นที่สาคัญๆ ของนายดรากีออกมาตั้งแต่เมื่อวันพุธในการประชุมกับกลุ่มธุรกิจเยอรมนี ไม่ใช่เมื่อวานนี้ โดยเมื่อวันพุธ เขาได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาต้องการให้เยอรมนียอมรับว่าธุรกิจของเยอรมนีกาลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความวุ่นวายในยุโรป นอกจากนี้ นายฮ็อบส์ยังได้คาดการณ์ถึงแผนทั้งหมดที่นายดรากีจะลดระดับการเติบโตของเศรษฐกิจในยูโรโซนและสหภาพยุโรป (ซึ่งอีซีบีจะทาในเดือนธันวาคม) ในขณะที่นายดรากีก็กาลังโน้มน้าวความคิดที่ว่า มาตรการ LTRO ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 การลดอัตราดอกเบี้ย การลดอัตราเงินฝาก และการนามาตรการ OMT มาใช้ไม่ได้มีผลกับภาวะเงินเฟ้อ

-เมื่อวานนี้ประธานอีเอสเอ็มกล่าวกับสานักข่าวรอยเตอร์สว่า ยังคงมีความเสี่ยงจากการให้กู้ยืมเพื่อการช่วยเหลือทางการเงินที่จะมีการจ่ายชาระหนี้ และมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการผิดนัดชาระหนี้ที่ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง