Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 4 มกราคม 2556

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 4 มกราคม 2556

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ในช่วงตลาด COMEX โดยที่ในช่วงภาคบ่ายราคาก็ปรับลดลงจนหลุด 1,680 เหรียญลงมา โดยส่วนใหญ่เริ่มต้นจากข่าวของความไม่แน่นอนของข่าว Fiscal Cliff ในการที่จะสามารถแก้ปัญหาระยะยาวได้ ทาให้มีการเทขายทองคาลงมาโดยตลอด จนราคาทองคาปรับตัวหลุดแนวรับสาคัญที่ 1,675 เหรียญลงมาในช่วงประมาณเที่ยงคืน ซึ่งทาให้เกิดภาวะ Sell Stop ลงมาโดยตลอด จนกระทั่งในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ราคาลงมาหยุดที่บริเวณ 1,660 เหรียญในช่วงประมาณ 6 โมงเช้า และยังเกิดแรงเทขายในตลาดเอเชียต่อเนื่องจนหลุดระดับ 1,660 เหรียญและลงมาทาจุดต่าสุด ณ ขณะนี้บริเวณ 1,647 เหรียญ ทาให้โดยภาพรวมของราคาทองคายังเป็นทิศทางขาลง จากเดิมที่ได้วิเคราะห์ว่า ราคาทองคาในระยะสั้นปรับตัวสูงขึ้นและสามารถจะผลักดันให้เป็นแนวโน้มขาขึ้นได้ โดยที่ MTS Gold ได้ย้าเน้นว่าถ้าราคาทองคายังไม่สามารถทะลุระดับ 1,700 เหรียญได้ แนวโน้มระยะกลางและยาวยังเป็นแนวโน้มขาลงอยู่ตามภาพทางเทคนิค หมายความว่าการที่ราคากลับปรับตัวลดลงมาทาให้ราคาทองคาในแนวโน้มระยะสั้น กลางและยาว เป็นแนวโน้มขาลงโดยตลอด

ในความเห็นของ MTS Gold คิดว่าราคาทองคาจะมีความผันผวนค่อนข้างมากในขาลง มีโอกาสลงไปทดสอบจุดต่าสุดเดือนธันวาคมที่ระดับ 1,635 เหรียญได้ จึงแนะนานักลงทุนให้ลดพอร์ทสถานะ Long Position ลง หรือทา Stop Loss ออกไปบางส่วน ดูลักษณะของทองคาเคลื่อนไหวไปตามข่าวค่อนข้างแรง และไม่ค่อยปรับตัวไปตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ก็ยังโฟกัสไปที่ข่าว Fiscal Cliff ที่ดูแล้วไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่นัก ส่วนเรื่องที่เฟดออกมาพูดเมื่อคืนว่า มีสมาชิกบางรายมีความเห็นคร่าวๆ ว่าน่าจะไม่ทา QE ต่อในปี 2013 หมายความว่า เรื่องการเข้าซื้อพันธบัตรยังขัดกันอยู่กับ Balance Sheet ของอเมริกา ก็เป็นอีกตัวที่ทาให้ตลาดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงขณะนี้

สรุปได้ว่า อยากให้นักลงทุนช่วยมองความจริงของสภาพตลาดที่เป็น มากกว่าที่จะมองภาพของข่าว Fiscal Cliff และตัวเลขเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้ หมายความว่าตลาดมีการแกว่งตัวผันผวนอย่างมาก และมีแนวโน้มในเชิงเทคนิคเป็นแนวโน้มขาลง และการที่ราคาหลุดแนวรับอย่างง่ายดายเมื่อวานนี้ทีเดียวลงมาที่เก่าในช่วงปลายปีที่บริเวณ 1,650 เหรียญ ณ ขณะนี้ถือว่าเป็นสัญญาณไม่ดี และมองว่าเป็นทิศทางขาลงมากกว่า ฉะนั้นการที่นักวิเคราะห์มองว่า ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นนั้นเป็นเรื่องของภาพในระยะยาว ซึ่ง MTS Gold ได้เคยบอกไว้ว่าให้ปรับเปลี่ยนการลงทุนไม่เกิน 3 วัน ให้ทากาไรระยะสั้นแบบเข้าเร็วออกเร็ว พูดง่ายๆ ว่า อยากจะเน้นให้ลูกค้าลด Position หรือเล่นในสถานะ Short Position ด้วยซ้า เพราะดูลักษณะของราคาทองคานั้นเป็น Risky Asset ณ ขณะนี้

ความเห็นจาก MTS Gold ต่อตลาดทองคา ณ ขณะนี้

ในการเล่นทองคาตอนนี้แนะนาว่าต้องเข้าเร็วออกเร็ว เน้นในทิศทางขาลงมากกว่า ลดสถานะ Long Position และทาเป็นลักษณะของการลดพอร์ทและซื้อคืนเมื่อราคาอ่อนตัว ย้าว่าไม่แนะนาให้ขยายพอร์ท ไม่แนะนาให้ซื้อเพิ่มหรือซื้อเฉลี่ย ทากรอบเท่าเดิม เช่น มีอยู่ 10 สัญญา ให้ขาย 5 สัญญาและช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หาจังหวะที่ราคาดีดตัวสูงขึ้นจึงขาย ซึ่ง MTS Gold เชื่อว่าราคาคงดีดไปไม่ได้ไกล โดยในการที่จะขายให้ดูที่บริเวณแนวรับแนวต้าน เช่น แนวต้านบริเวณ 1,660 เหรียญ อาจขายที่บริเวณ 1,650 เหรียญกว่าๆ หาจังหวะในการดูราคา ซึ่ง MTS Gold มองว่า มีโอกาสที่ราคาจะตกลึก และมีโอกาสสูงที่จะหลุดบริเวณ 1,635 เหรียญลงมาได้เหมือนกัน ยอมรับว่ามีความผันผวนมากของราคาขึ้นลงรุนแรง พอร์ทใหญ่ต้องดูตามแนวโน้มระยะยาว ถามว่าระยะยาวเป็นขาขึ้นใช่หรือไม่ เมื่อคืนหลังจากที่ดูกราฟรายสัปดาห์ทาท่าจะผงกขึ้นก็กลับลงมาใหม่ ดูแล้วไม่ค่อยดีนัก มองว่าปีนี้ราคาทองคาอาจมีการปรับฐานต่อเนื่อง หรือในทางกลับกันก็คงจะต้องดูความชัดเจนในการทา Budget Balance และทา Debt Ceiling ในหลักการจริงๆ แล้วเชื่อทางเทคนิคมากกว่าไม่ว่าข่าวจะพูดพาไปทางใดก็ตาม หากภาพทางเทคนิคแย่ก็ต้องว่าไปตามแย่

คำแนะนำ

Daily

เก็งกาไรในทิศทางขาลง โดยมองว่าวันนี้โอกาสที่ ราคาทองคาจะหลุดลง ไปบริเวณ 1,635 เหรียญก็ยังมีอยู่ แนวต้านด้านบนวันนี้อยู่ที่บริเวณ 1,670 เหรียญ แนะนาให้เล่นเก็งกาไรสั้นๆ ในการแกว่งตัว ซื้อบริเวณ แนวรับที่ 1,640 เหรียญเป็นแนวรับสั้นๆ และจึงขายทากาไร แนะนาให้ เก็งกาไรในทิศทางขาลงมากกว่า และให้เน้นทิศทางกราฟมากกว่าข่าว

Weekly

ขายลดพอร์ทลงเหลือ 0% หาจังหวะในการเล่นใน ทิศทางขาลง ทา Stop Loss ออกไป

Monthly

ลดพอร์ทลงไปครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 20% หาจังหวะในการซื้อ คืนเฉพาะเมื่อราค่าอ่อนตัว ทากาไรในทิศทางขาลง เช่นเดียวกัน บริเวณ 1,635 เหรียญเป็นแนวรับของนักลงทุน ระยะยาว ถ้าหลุดระดับดังกล่าวก็จะมีแนวรับที่ระดับ 1,600 เหรียญและ 1,580 เหรียญตามลาดับ

Morning Recap

ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,687 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures G13 เปิดที่ 24,490 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,200 - 24,300 บาท

Night Recap

ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,679 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,674 – 1,682 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,680 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-การรายงานผลการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดของเฟดที่ออกมาเมื่อคืนนี้ สมาชิกบางรายของเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นว่า มาตรการผ่อนคลายการเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรอาจชะลอตัวลงหรือสิ้นสุดลงภายในปีนี้ ซึ่งเป็นการสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อทิศทางขาขึ้นของทองคาและช่วยกระตุ้นสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นทาจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม สมาชิกเกือบทั้งหมดของเฟดมีความเห็นว่า แผนการเข้าซื้อหลักทรัพย์ MBS มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนที่เริ่มต้นในเดือนกันยายนกาลังไปได้ด้วยดี แต่ยังคงมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลที่จะออกมาภายหลัง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในขนาดของงบดุลบัญชีของเฟด ซึ่งในการประชุมเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเฟดได้มีการขยายการเพิ่มขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรอีก 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

-สาหรับภาวะ Fiscal Cliff ของสหรัฐ ณ ขณะนี้ออกจากความสนใจของตลาดไปชั่วคราว โดยตลาดหันมาสนใจที่ประเด็นอื่น ซึ่งได้แก่การรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานในวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาเมื่อวานนี้ขับเคลื่อนตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ดูเหมือนว่าการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ในวันศุกร์จะมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 150,000 ตาแหน่งในเดือนธันวาคม จากระดับ 146,000 ตาแหน่ง และมีการคาดการณ์อัตราการว่างงานอยู่ที่ 7.7% คงเดิมจากเดือนที่ผ่านมา

-นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะออกจากการราชการภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนที่จะมีการตกลงกันในเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ แม้ว่าข้อตกลงในเรื่องการจากัดหนี้จะไม่เข้าที่ก็ตาม

-ผลสารวจจาก Bloomberg ระบุว่า มีนักวิเคราะห์จานวน 20 รายที่เชื่อว่า ราคาทองคาจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์หน้า ในขณะที่นักวิเคราะห์จานวน 5 รายเชื่อว่าราคาทองคาจะปรับตัวลดลง และอีก 2 รายเชื่อว่าราคาจะทรงตัว นอกจากนี้ เฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ได้ลดการลงทุนในทิศทางขาขึ้นลงสู่ระดับต่าสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาทองคาปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ซึ่งนักลงทุนต่างมีการถือครองทองคาในกองทุน ETPs เกือบถึงระดับสูงสุดที่ 2,632.5 ตันที่ทาไว้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม และ ณ ขณะนี้กองทุน gold ETPs มีมูลค่าถึง 1.419 แสนล้านดอลลาร์