MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคายังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway up อย่างช้าๆ โดยจะมีแนวต้านสาคัญบริเวณ 1,695 – 1,700 เหรียญ แนวรับในระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 1,685 เหรียญ ยังคงแนะนาให้ขายเมื่อราคาชนบริเวณแนวต้าน และซื้อกลับเมื่อราคาย่อตัว แต่ไม่แนะนาให้เปิด Short ในขณะนี้ ภาพรวมยังแนะนาให้นักลงทุนทากาไรใน กรอบแคบๆ ไปก่อน จะเห็นได้ว่า ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวบริเวณ 29.75 บาท/ดอลลาร์ได้ โอกาสที่ราคาทองคา จะปรับตัวทะลุสูงขึ้นไปยังมีอยู่ค่อนข้างสูง ในเชิงเทคนิค กราฟโดยทั่วไปเริ่มส่งสัญญาณเป็นกระทิงทั้งในราย ชั่วโมงและรายวัน แต่ยังมีปริมาณการซื้อขายไม่มากพอ
คำแนะนำ
Daily
เก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,687 – 1,695 เหรียญ
Weekly
รอช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น
Monthly
ซื้อสะสมเพิ่มพอร์ทมาที่ 15%
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,691 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures G13 เปิดที่ 24,040 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,800 - 23,900 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,691 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,686 – 1,693 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,690 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคาเมื่อคืนยังเคลื่อนอยู่ในกรอบแคบๆ เพียง 4 เหรียญ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีข่าวสาคัญ แม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
-ภายหลังราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ซึ่งตอบสนองข่าวที่ธนาคารญี่ปุ่นประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
-Bullion Desk กล่าวว่าราคาอาจจะเพิ่มขึ้นได้จากข่าวธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่อาจกระตุ้นกองทุนบานาญของญี่ปุ่นเข้าซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
-ราคาได้แรงหนุนบางส่วนจากการกระจายการลงทุน เนื่องจากตลาดหุ้น S&P มีสัญญาณซื้อมากเกินไป (Overbought)
-Reuters และรัฐบาลอินเดียกล่าวว่า การเพิ่มภาษีนาเข้าทองคาจะมีผลกระทบต่อราคาเพียงเล็กน้อยต่อตลาด
-แต่โซซีท เจเนอรัล และ Bullion Desk กล่าวว่า ข่าวนี้อาจจะลดความต้องการของทองคา
-เอ็นเดอวอร์ ไมน์นิ่ง คอร์ปได้ผลิตทองคาในปี 2012 จานวน 310,778 ออนซ์มากกว่าคาด 6,000 ออนซ์ และคาดว่าในปี 2013 จะผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 345,000 ออนซ์
-สแตนดาร์ดแบงก์กล่าวว่า ในตอนนี้มีแรงซื้อทองคาแท่งเพิ่มขึ้นมาก จากที่ความต้องการลดลงในปลายเดือน ธ.ค.
-ในทางตรงกันข้าม ตลาด Futures และ ETF มีแรงซื้อลดลง โดยมีการเปิด Long หรือซื้อเพียงแค่ 7.3 ตัน และมีการเปิด Short หรือขายถึง 17 ตัน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์
-ยูโรแข็งค่าเทียบดอลลาร์ หลังดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจเยอรมนี
-มีมุมมองเชิงบวกในการเจรจา จากนายโอบามาได้กล่าวยินดีที่ ในวันนี้พรรครีพลับลิกันจะมีการลงมติการเลื่อนเวลาเพิ่มระดับเพดานหนี้ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม และจะไม่ขัดขวางร่างกฎหมายเพิ่มระดับเพดานหนี้ 3 เดือน อีกทั้งจะหารือร่วมกับรัฐสภาต่อในประเด็นการตัดลดงบประมาณต่อไป
-จากผลสารวจ Bloomberg ระบุว่า สถานะทางการเงินของสหรัฐเป็นความเสี่ยงมากที่สุดต่อเศรษฐกิจโลก และนักลงทุนครึ่งหนึ่งในผลสารวจได้ลดการลงทุน เพื่อรอดูการเจรจาด้านงบประมาณต่อไป ซึ่งมีกาหนดการสิ้นสุดในเดือน มี.ค.
-ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนธ.ค.ลดลง 1.0% สู่ระดับ 4.94 ล้านยูนิต ซึ่งสวนทางกับที่ ทาให้แนวโน้มของยอดขายบ้านยังคงเป็นขาลง
-นายดรากี้มีมุมมองเชิงบวกว่า วิกฤตยุโรปเริ่มบรรเทาลง และช่วงที่เลวร้ายที่สุดอาจจะ สิ้นสุดลงแล้ว (มีการฟื้นตัว) เนื่องจากนโยบายที่ชัดเจนที่มีการเข้าซื้อพันธบัตร โดยยูโรไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 1.3315 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากนายดาร์กี้กล่าว