Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 30 มกราคม 2556

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 30 มกราคม 2556

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองค าปรับตัวสูงขึ้นในช่วงการซื้อขายในตลาด COMEX โดยปรับขึ้นมาประมาณ 7 เหรียญ ปิดตลาด COMEX

ที่ระดับ 1660.8 เหรียญ หลังจากที่ราคาทองค าลงไปท าจุดต่ าสุดเมื่อ 2 วันก่อนที่ระดับประมาณ 1,652 เหรียญ โดย

ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในวันนี้ดูจะไม่ค่อยจะดีนักจากการประมาณการณ์ ที่จะมี ADP Non-farm employment

change และ Advance GDP ซึ่งคาดว่าจะลดลงทั้งคู่ ข่าวเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังเป็นทั้งบวกและลบจากการซื้อขายทองค า

ในเชิงเทคนิควิเคราะห์ได้ว่าราคาทองค าเริ่มจะทรงตัวบริเวณ 1,660 เหรียญได้ ซึ่ง MTS Gold คาดว่าวันนี้ราคาทองค า

น่าจะเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway up ได้ ค าแนะน านักลงทุนจึงเป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางจากเดิมที่เป็นการขายก่อน

ก็กลับมาเป็นการที่จะเป็นการซื้อเพื่อปิดก าไรจากการท า Short ก่อนหน้านี้ เนื่องจากวันนี้เงินบาทเองแข็งค่าขึ้นมาบริเวณ

29.80 บาท/ดอลลาร์แล้ว ก็แนะน าให้ปิดท าก าไรในตัวทองค าที่แนะน าเมื่อวานให้ท า Short ไป และเริ่มพิจารณาที่จะท า

สถานะ Long Position บ้างจากการคาดหมายว่า ราคาน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้บ้าง โดยมีแนวต้านระดับแรกที่ 1,670

เหรียญ แนวรับวันนี้อยู่ที่ระดับ 1,655 เหรียญ ค าแนะน าในวันนี้จึงเป็นลักษณะของการซื้อกลับ และรอจังหวะขายเมื่อราคา

ปรับตัวสูงขึ้น

คำแนะนำ

Daily

เก็งก าไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นอย่างช้าๆ ในกรอบ 1,655 – 1,670 เหรียญ

Weekly

เริ่มขายท าก าไร ปิดท าก าไรที่ท า Short ไป โดยให้ปรับเป็นสถานะ Long Position บ้าง

Monthly

ยังไม่แนะน าให้ท าอะไร รอความชัดเจนของตลาดในวันศุกร์ที่จะมีการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls

Gold Recap

Morning Recap

ราคาทองค าต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,660 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures G13 เปิดที่ 23,660 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,450 - 23,550 บาท

Night Recap

ราคาทองค าเปิดตลาดช่วงค่ าในประเทศไทยที่ระดับ 1,663เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,660 – 1,665 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,661 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-HSBC ระบุว่า ยอดขายเหรียญทองและเหรียญเงินประจ าเดือนมกราคมท าจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยอดขายเหรียญทองและเหรียญเงินจะเป็นตัวชี้วัดปริมาณความต้องการลงทุนในระยะยาวส าหรับทองค าและซิลเวอร์ ประเด็นนี้จึงเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองค า

-นักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการแถลงของเฟดในคืนนี้เวลา 2.15 น. ที่จะมีการแถลงผลการประชุมและประกาศอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

-ืนนี้เวลา 20.30 น. จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสสุดท้ายปี 2012 ของสหรัฐและดูเหมือนว่าตัวเลขจะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งผลส ารวจจาก MarketWatch ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 4 จะขยายตัวเพียง 1% ลดลงจากไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัว 3.1%

-ผลการส ารจประชากรของ Wall Street เผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เชื่อมั่นต่อการคาดการณ์ที่ว่า การเติบโตทางสภาพ

เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.08% รวมทั้งคาดการณ์ว่าในปีหน้าค่าจีดีพีของสหรัฐ จะออกมาอยู่ที่ระดับ 2.56%

-TD Securities ยังคงมองว่า การขยายบัญชีงบดุลของเฟดจะส่งผลสนับสนุนราคาทองค า โดยปัจจุบันเฟดมีบัญชีงบดุลอยู่ที่ 3 ล้านล้านเหรียญ และคาดว่าในท้ายที่สุดจะเพิ่มเป็น 4 ล้านล้านเหรียญในต้นปีหน้า

-สมาคมค้าอัญมณีและเครื่องประดับสนับสนุนการส่งออกของอินเดียคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกซิลเวอร์ของอินเดียจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30% ในปีนี้ จากประมาณความต้องการทั่วโลกสูงขึ้น

-หุ้นทองค าของอินเดียภายใต้กองทุน ETF ในธนาคารต่างๆ อาจเพิ่มการซื้อขายทองค าและเครื่องประดับของอินเดียได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอินเดียยอมให้ทองค าแท่งที่ถือครองโดย Mutual Fund ในกองทุน ETF เข้ามาฝากในธนาคาร นอกจากนี้อินเดียลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อวานนี้ สู่ระดับ 7.75% หลังเงินเฟ้อชะลอตัว ซึ่งไม่มีผลกระทบใดต่อราคาทองค าอินเดีย

-ทั้งนี้สหรัฐยังคงรักษาระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดจากสถาบันจัดอันดับความเชื่อมั่นอย่างมูดดี้ส์และฟิทช์ เรตต้งส์ได้ แม้ว่าระดับหนี้สินก าลังเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม โดยฟิทช์ กล่าวว่า การขยายระดับเพดานหนี้เมื่อเร็วๆนี้ ได้ช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดลดระดับความเชื่อมั่นได

-สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น พยายามฝ่าจุดสูงสุดในรอบ 14 เดือน บริเวณ 1.3500 ในขณะที่ราคาทองค าสามารถขึ้นมายืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,662.92 เหรียญได