Home Product

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 31 มกราคม 2556

รวบรวมบทวิเคราะห์ทองจากบลจ.ต่างๆประจำวันที่ 31 มกราคม 2556

MTS

วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า

Gold – ราคาทองค าปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ข่าวตัวเลข GDP ประกาศออกมาแย่กว่าที่คาดอย่างมาก เกิดแรงซื้อ

กลับเข้ามาในตลาดทองค าอย่างมากท าให้ราคาทองค าขึ้นไปท าจุดสูงสุดที่ระดับ 1,683 เหรียญโดยประมาณ ราคาทองค าเมื่อ

วานในตลาดนิวยอร์กปิดที่ระดับ 1681.6เหรียญ ในวันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจทางสหรัฐที่จะออกมี Core PCE Price Index,

Personal Spending, Chicago PMI ซึ่งตลาดคาดการณ์ออกมาดีขึ้นทุกตัว ในขณะที่ Unemployment Claims การรับ

สวัสดิการคนว่างงานคาดว่าจะแย่ลง 32,000 ต าแหน่ง และในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวเลข Non-farm employment

Change คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 6,000 รายเท่านั้น แต่ในส่วนของอัตราการว่างงานคาดว่าจะเท่าเดิมที่ 7.8%

MTS Gold ได้วิเคราะห์ไว้ว่านักลงทุนควรที่จะปิดสถานะ Short และเปิดสถานะ Long เพื่อท าก าไรตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งถ้าเปิดไป

แล้วก็ให้หาจังหวะการท าก าไรในวันนี้บริเวณ 1,680 – 1,685 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาทองค าจะเคลื่อนตัวในทิศทาง

Sideways มากกว่าในกรอบ 1,673 – 1,683 เหรียญ จึงเป็นการแนะน าให้หาจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

คำแนะนำการลงทุน

Daily

เก็งก าไรในภาวะการแกว่งตัว คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,675 –1,683 เหรียญ

Weekly

ให้เข้าซื้อตั้งแต่เมื่อวาน เพิ่มพอร์ท Position 15%

Monthly

ซื้อเพิ่มประมาณ 10 – 15%

Gold Recap

Morning Recap

-ราคาทองค าต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,664 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures G13 เปิดที่ 23,630 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 23,450 - 23,550 บาท

Night Recap

-ราคาทองค าเปิดตลาดช่วงค่ าในประเทศไทยที่ระดับ 1,665เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,661 – 1,681 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,680 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อคืนนี้ราคาทองค าปรับตัวสูงขึ้นทันที 10 เหรียญหลังการประกาศจีดีพีไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐ ออกมาแย่กว่าที่คาด ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองค าอย่างมหาศาล จากระดับ 1,666 เหรียญ ขึ้นไปบริเวณ 1,676 เหรียญ และไปท าจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,683 เหรียญ ประกอบกับการแถลงนโยบายของเฟดหรือ FOMC ยังคงรักษานโยบายผ่อนคลายการเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 8.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือนไว้เช่นเดิม

-เฟดไม่ได้แถลงว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรเป็นระยะเวลาถึงเมื่อใด แต่ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจให้อัตราการว่างงานลดลงแตะระดับ 6.5% ซึ่งผลการลงมติอยู่ที่ 11 ต่อ 1 โดยประธานเฟดสาขาแคนซัสไม่เห็นด้วยในครั้งนี้ โดยกล่าวว่าการผ่อนคลายการเงินของเฟดอาจน าไปสู่สภาวะทางการเงินที่ไม่สมดุลและท าให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น

-ข่าวใหญ่ที่ส าคัญของวันก็คงหนีไม่พ้นการรายงานจีดีพีของสหรัฐที่ออกมาหดตัว 0.1% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จีดีพีสหรัฐปรับตัวลดลงในรอบมากกว่า 3 ปี โดยตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1% ท าให้ทั้งตลาดทองค าและซิลเวอร์ปรับตัวสูงขึ้นทันทีหลังการรายงานจีดีพี จากความคิดต่างๆ ที่หากตัวเลขออกมาอ่อนแอจะท าให้เฟดยังคงรักษานโยบายผ่อนคลายการเงินไว้เช่นเดิม

-ในวันศุกร์ที่จะมีการประกาศ Non-farm payroll สหรัฐจะเป็นจุดสนใจ ซึ่งการจ้างงานในเดือนมกราคมดูเหมือนจะทรงตัว จากการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับปานกลาง แม้ว่าจะมีความกังวลในเรื่องการต่อสู้ทางด้านงบประมาณที่อาจท าให้การฟื้นตัวหยุดชะงัก

-มีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซนปรับตัวสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีปรับตัวลดลง ส่งผลให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน และ ณ ขณะนี้เคลื่อนตัวใกล้บริเวณระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ าสุดในรอบ 5 สัปดาห์

-เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการคลังของอินเดียกล่าวกับรอยเตอร์สเมื่อวานนี้ว่า ณ ขณะนี้ รัฐบาลอินเดียไม่ได้วางแผนอะไร

เพิ่มเติมทางด้านภาษี หรือแม้จะจ ากัดการน าเข้าทองค า เนื่องจากรัฐบาลรอผลกระทบของการเพิ่มภาษีล่าสุด

-สภาคองเกรส เปิดเผยว่าจะยังไม่เก็บภาษีคนรวย จนกว่าจะมีมติผ่านร่างงบประมาณ จากข้อเสนอที่เรียกว่า “No budget, no pay