MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคามีการแกว่งตัวอย่างมากการจากประกาศตัวเลขอัตราการว่างงานในสหรัฐในคืนวันศุกร์ โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือเพียง 7.7% จากระดับ 7.9% รวมทั้ง Non-farm payrolls มีการจ้างงานสูงขึ้นมากกว่าที่คาดอย่างมาก วิเคราะห์ในเชิงปัจจัยพื้นฐานจะเห็นการขายออกมาของกองทุน SPDR และ ETPs อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์กองทุน SPDR ขายออกมาอีก 3.31 ตัน ถือครองทองคาเหลือเพียงประมาณ 1,239.74 ตัน รวมทั้ง กองทุน ETFs ขายออกมาวันศุกร์อีก 4.24 ตัน ถือครองทองคาเหลือเพียง 2,488.52 ตัน รวมไปถึงการนาเข้าทองคาของจีนในเดือนมกราคม 51.303 ตันลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
วิเคราะห์ราคาทองคาทางเทคนิค – จะเห็นการแกว่งตัวในทิศทาง Sideways อย่างค่อนข้างมาก มีแรงซื้อหนาแน่นบริเวณ 1,565 เหรียญ และมีแรงขายหนาแน่นบริเวณ 1,582 เหรียญขึ้นไป โดยภาพจะเห็นถึงการแกว่งตัวในทิศทาง Sideways และมีการสวิงของราคาค่อนข้างมาก ยังเชื่อว่าราคาในวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,585 เหรียญ เช่นเดิม แนะนาให้นักลงทุนเริ่มปิดสถานะShort เพื่อทากาไรโดยการเข้าซื้อเพื่อปิดสถานะ และยังคงแนะนาให้เก็งกาไรในกรอบ 1,572 – 1,583 เหรียญ
กลยุทธการลงทุนในทองคำวันนี้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เป็นกลยุทธ์เล่นตามการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เป็นลักษณะขึ้นไปบริเวณ 1,580 เหรียญให้ขายทา Short ในขณะที่กรอบด้านล่างเป็นกรอบให้ซื้อปิดสถานะ Short
นักลงทุนถือ Long Position ยังคงแนะนาให้ขายปิดสถานะ Long บริเวณเหนือ 1,582 เหรียญขึ้นไป
นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนาให้หาจังหวะซื้อปิดสถานะ Short เป็นการทากาไรในกรอบสั้นแคบๆ
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,581 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures J13 เปิดที่ 22,460 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 22,200 - 22,300 บาท
Night Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,577 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,561 – 1,584 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,579 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคาเมื่อวันศุกร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบในตลาดเอเชียเพื่อรอการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และในช่วงตลาด COMEX ที่มีการรายงานตัวเลข Non-farm payrolls และ Unemployment Rate ออกมาดีขึ้นทั้งคู่ กดดันให้ราคาทองคาปรับตัวลดลงไปทาจุดต่าสุดที่ระดับ 1,562 เหรียญ ภายหลังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ราคาทองคาดีดกลับขึ้นมาทาจุดสูงสุดที่ระดับ 1,583 เหรียญ
-สมาชิกเฟดระดับสูงได้กล่าวทันทีว่า จะยังคงการเข้าซื้อพันธบัตรไว้จนกว่าอัตราการว่างงานจะลดลงที่ 6.5% ซึ่งทั้งนายเบอร์นันเก้ และนางเยลเลนได้เน้นถึงผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมา
-BullionDesk ระบุว่า ตัวเลขสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นทาให้ราคาทองคาลดลงไป 17 เหรียญ แต่ก็ได้ดีดกลับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากปัจจัยเชิงเทคนิคและความกังวลเรื่อง Sequester ที่อาจชะลอการฟื้นตัวสหรัฐ ทาให้ราคามีการทดสอบระดับแนวรับสาคัญ1,556 เหรียญเพียงระยะสั้นอาจสื่อว่าตลาดกาลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดการปรับตัวลงในขณะนี้
-การที่การจ้างงานนอกการเกษตรเพิ่มขึ้นอาจไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนนโยบายของเฟด
-Reuters กล่าวว่าแม้จะมีการฟื้นตัวของภาคแรงงานที่กระตุ้นโอกาสที่เฟดอาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด แต่น่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าข้อมูลภาคแรงงานจะแข็งแกร่งพอที่เฟดจะลดการเข้าซื้อพันธบัตร และอาจใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีจากนี้ ในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
-นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดอาจผลักดันการใช้ QE โดยใช้คาพูด 2 ประเด็นจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีขึ้นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการทางานของระบบกระตุ้นเศรษฐกิจ และเฟดควรที่จะรักษาการเข้าซื้อพันธบัตรมูลค่า 8.5 หมื่นล้านในแต่ละเดือนต่อไป
-การตัดสินใจที่จะขายสินทรัพย์จานองและพันธบัตรรัฐบาลอาจต้องใช้เวลาเพิ่มเป็นปีในการดาเนินการให้บัญชีงบดุลของเฟดกลับมาที่ระดับปกติกว่านี้ประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงประมาณปี 2020 ซึ่งตอนนี้บัญชีงบดุลของเฟดอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และอาจเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับเกือบ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี และดูเหมือนว่า การถอนมาตรการกระตุ้นจะไม่เกิดขึ้นในการประชุมเฟดครั้งต่อไปวันที่ 19-20 มีนาคม
-รายงานของสมาคมนักลงทุน (COT) เผยว่าสถานะ Long ทั้งหมดได้ลดลงอีก 1.11 ล้านออนซ์ในสัปดาห์ที่แล้วนับถึงวันที่ 5 มี.ค. ส่วนสถานะ Short ทั้งหมดได้เพิ่มขึ้น 0.13ล้านออนซ์ และสถานะ Long สุทธิลดลง 1.25 ล้านออนซ์สู่ระดับ 12.179 ล้านออนซ์ อย่างไรก็ตาม การปิดสถานะ Long ของ ETFน่าจะเป็นแรงกดดันราคาในระยะสั้น และคาดว่าราคาน่าจะสร้างแนวรับได้ช่วง 1,526-1,555 เหรียญ
-ส่วนกองทุน ETFs เมื่อวันศุกร์ได้ขายทองคา 4.24 ตัน จากระดับ 2,492.75 ตันสู่ระดับ 2,488.52 ตัน
-ปริมาณการนาเข้าทองคาของจีนจากฮ่องกงในเดือน ม.ค. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยจีนซื้อทองคา 51.303 เมตริกตัน อันประกอบไปด้วยทองเก่าและเหรียญทอง ลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมที่มีการ