MTS
วิเคราะห์ทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold – ราคาทองคายังคงถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวานที่ตัวเลข Retail Sales ออกมาดีกว่าที่คาด ราคาในช่วงเช้าตลาดเอเชียขึ้นไปทาจุดสูงสุดที่ระดับ 1,596 เหรียญ และมีการปรับตัวย่อลงมาเมื่อตัวเลข Retail Sales ออกมาดี ทาให้ราคากลับมาซื้อขายบริเวณ 1,590 เหรียญและเริ่มหลุดระดับ 1,590 เหรียญลงมาในช่วงปลายตลาด เช้านี้ราคาทองคายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาเปิดตลาดที่ระดับ 1,588 เหรียญ จนลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1,585 เหรียญ ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ในภาพรวมคาดว่าออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่จะเป็นผลดีต่อราคาทองคาในเชิงบวก เนื่องจากตลาดคาดว่า PPI จะสูงขึ้นและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะมากขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคาทางเทคนิค – ภาพรวมราคาทองคายังเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,585 – 1,600 เหรียญ ถ้าราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือ 1,585 เหรียญได้ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อได้ แต่ถ้าราคาสามารถทรงตัวอยู่ได้ก็จะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ต่อไป
กลยุทธการลงทุนในทองคำวันนี้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเก็งกาไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,580 – 1,590 เหรียญ ยังเป็นการเก็งกาไรตามการแกว่งตัว ยังไม่แน่ชัดว่าจะให้เปิด Short หรือ Long จนกว่าจะราคาจะเบรกในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
นักลงทุนถือ Long Position แนะนาให้ทากาไรโดยการปิดสถานะ Long Position เมื่อราคาย่อตัวลงมา
นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนาให้ซื้อปิดทากาไรเช่นเดียวกันตามสภาวะการแกว่งตัวของตลาด
Gold Recap
Morning Recap
ราคาทองคาต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,594 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures J13 เปิดที่ 22,510 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 22,250 - 22,350 บาท
Gold Recap
ราคาทองคาเปิดตลาดช่วงค่าในประเทศไทยที่ระดับ 1,595 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,586 – 1,600 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,586 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคายังม่สามารถฝ่าแนวต้าน 1,600 เหรียญเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากยอดค้าปลีกที่ออกมาดี กระตุ้นมุมมองบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 เดือน และราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นกดดันสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคา
-ยังมีปัจจัยหนุนจากการคาดว่าอีซีบีจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากตัวเลขภาคอุตสาหกรรมออกมาไม่ดีอย่างมากในเดือน ม.ค.
-มีการขายทองคาออกจาก SPDR เป็นจานวน 114.51 ตันแล้วในปีนี้ มากกว่าที่ซื้อเข้าในปีที่แล้วที่ซื้อไป 96.25 ตัน ส่วนเมื่อวานนี้ SPDR ถือครองทองคาเท่าเดิมที่ระดับ 1,236.31 ตัน
-จีนน่าจะจากัดการถือครองทองคาที่ 2% ของเงินทุนสารองอัตราแลกเปลี่ยนต่างชาติ โดยรัฐบาลจีนให้เหตุผลว่า หากจีนซื้อทองคามากเกินไป ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น และจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคจีน จึงจะลงทุนแค่ 1-2% ของเงินทุนสารองเท่านั้น เพราะตลาดเล็กเกินไป
-ผู้นาธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนต้องทาให้เงินเฟ้ออยู่ระดับเสถียรภาพ และให้คามั่นว่าจะควบคุมความเสี่ยงจากจากการที่ราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของธนาคารกลาง รวมถึงจะปฏิรูปตลาดหุ้นต่อไปด้วย
-ตัวเลขถัดไปที่สาคัญ คือ CPI ในวันศุกร์ที่คาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย ที่ราคาอาจจะตอสนองเล็กน้อย แต่นักลงทุนยังคงรอปัจจัยจากการประชุมเฟดในสัปดาห์ด้วย (19-20 มี.ค.)
-Danske Bank A/s และ Credit Suisse กล่าวว่า ราคาทองคาที่ร่วงเป็นเวลา 5 เดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 1997 อาจทาให้ลดความต้องการทองคาจากจีน
-วอล สตรีท เจอนัล รายงานเมื่อคืนนี้ว่า CFTC ของสหรัฐอาจตรวจสอบการตั้งราคาทองคาในตลาดลอนดอน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการควบคุมราคาทองคาตลาดลอนดอนและราคาซิลเวอร์
-สภาทองคาโลกเผยว่า การมีอิทธิพลของค่าเงินดอลลาร์ในระยะยาวอาจจะมีลดลง จากที่เริ่มอ่อนค่าลง และธนาคารต่างๆเริ่มลดสัดส่วนค่าเงินดอลลาร์ แต่ไปเพิ่มทุนสารองที่สินทรัพย์ดั้งเดิม เช่น ทองคา ค่าเงินเยน และทางเลือกใหม่อย่างค่าเงินหยวนแทน ส่วนนักลงทุนก็ได้เพิ่มทองคาเข้าพอร์ตที่มักผ่านทาง ETPs
-การประชุม EU Summit วันนี้ ซึ่งมี 2 วัน ผู้นาต่างๆ กาลังผ่อนปรนเงื่อนไขมาตรการรัดเข็มขัดที่เยอรมันเคยต้องการ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีการว่างงานจานวนมากในช่วงวิกฤตหนี้ ซึ่งจะมีแผนที่จะประเมินงบประมาณ “เชิงโครงสร้าง” ตามร่างของแผน เพื่อให้เวลาประเทศฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกสเพิ่มเติมในการตัดลดการขาดดุล
-การผลิตภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศในเดือนม.ค. ปรับตัวลดลง 0.4% จากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% และหากเทียบรายปี ผลผลิตอุตสาหกรรมยูโรโซนลดลง 1.3% ในเดือนม.ค.